สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ วันนี้ขอเสนอLinkin Park

24 ธ.ค. 53 23:19 น. / ดู 3,065 ครั้ง / 35 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีครับ
ตอนแรกผมกะว่าจะรีบตั้งให้เสร็จตั้งแต่ตอนกลางวัน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถตั้งได้ ทำให้ผมต้องมาตั้งกระทู้ในช่วงเวลานี้
วันนี้จะขอนำเสนอประวัติของวงขวัญใจมหาชนบอร์ดสากล
LINKIN PARK
ลินคินพาร์ก (อังกฤษ: Linkin Park) ศิลปินจากอะกูราฮิลลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ศิลปินแนว "นูเมทัล" (Nu-Metal) ด้วยบทเพลงน่าสนใจ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของดนตรี เมทัล ฮิปฮอป อีเลคโทรนิค อินดัสเตรียล และยังคงมีกลิ่นไอของ ฮิปฮอป ความเป็น ป็อป อยู่ด้วย ประสบความสำเร็จกับอัลบั้มเปิดตัว Hybrid Theory ด้วยยอดขาย 24 ล้านแผ่น และอัลบั้มที่ 2 Meteora ก็ขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ด เพลงฮิตที่เป็นที่รู้จัก เช่น In The End, Somewhere I Belong เป็นต้น ยังคว้ารางวัลแกรมมีมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 2002 และ 2006 และทำยอดขายมาแล้วถึง 40 ล้านชุดทั่วโลก รวมทั้งยังก่อตั้งองค์กร Music For Relief ร่วมกับสภากาชาติสากลเมื่อต้นปี 2005 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปี 2004 และต่อต้านภาวะโลกร้อน
ช่วงแรกของวง (1996—1999)
ไมค์ ชิโนดะ ได้ชมคอนเสิร์ตของวงแอนแทร็กซ์ (Anthrax) และ พับลิก อีเนมี่ (Public Enemy) ในช่วง พ.ศ. 2532 - 2533 และการแสดงในช่วงที่แฟนเพลงเรียกร้องให้ขึ้นเวทีอีกครั้ง หรือช่วงอังกอร์ของคอนเสิร์ตในครั้งนั้น ทั้ง 2 วง ลุกขึ้นมาแสดงดนตรีร่วมกันในบทเพลง บริงก์ ดา น้อยซ์ (Bring Da Noise) ซึ่งเป็นการจุดประกายให้ ไมค์ อยากทำงานเพลงในทิศทางนั้น
ลินคินพาร์ก จึงเริ่มต้นจาก ไมค์ ชิโนดะ หนุ่มน้อยผู้คลั่งไคล้ในวัฒนธรรมดนตรีฮิปฮอป กับ แบรด เดลสัน (Brad Delson) มือกีตาร์สมัครเล่น ทั้ง 2 หนุ่มเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เกรด 7 (ประมาณ 13 ปี ) โดยในช่วงแรก ไมค์ รับหน้าที่ทำบีทให้วงฮิปฮอป หลังจากนั้นจึงได้พบกับ ร็อบ บอร์ดอน (Rob Bourdon) มือกลอง ณ โรงเรียนใกล้ๆ ในแถบซาน เฟอร์นานโด แวลลีย์ (San Fernando Valley) ส่วน โจ ฮาห์น (Joseph Hahn) DJ ผู้รู้จักกับ ไมค์ ขณะศึกษาที่ อาร์ต เซ็นเตอร์ คอลเลจ (Art Center College) ใน พาซาดีนา (Pasadena Art school) ตามมาเป็นหนึ่งในสมาชิก และร่วมตั้งวงดนตรีชื่อ ซีโร่ (Xero) ใน พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดการแสดงเล็กๆ สร้างความครื้นเครงและมันส์อย่างสุดๆ ในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน
เมื่อ ซีโร่ มีโอกาสได้ไปแสดงดนตรีที่ วิสกี้ อะโกโก้ (Whisky A Go-Go ) คลับดังของแอลเอ และด้วยฝีมือการแสดงอันโดดเด่น จึงเป็นที่ถูกใจ เจฟฟ์ บลู (Jeff Blue) แห่ง ซอมบ้า มิวสิก พับลิชชิ่ง (Zomba Music Publishing) และได้เซ็นสัญญาในที่สุด ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สำคัญและผลักดันให้ ซีโร่ มีโอกาสในวงการดนตรีมากขึ้น เนื่องจาก เจฟฟ์ มีส่วนผลักดันให้ผลงานเพลงตัวอย่างของ ซีโร่ เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงการเพลงมากขึ้น
ต่อมา ซีโร่ ได้เซ็นสัญญากับ วอร์เนอร์บราเธอร์ส (Warner Brothers) อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากนั้นไม่นาน เจฟฟ์ ย้ายตามไปทำงานร่วมกันโดยดำรงตำแหน่ง เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ (Executive Producer) ด้วย ขณะนั้น ซีโร่ ต้องการสมาชิกเพิ่มในตำแหน่ง นักร้องนำ เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington: second vocal) หนุ่มจากอริโซน่าจึงเข้ามาเป็นสมาชิกคนต่อไปในฐานะนักร้องนำ โดย เชสเตอร์ ได้รับเทปตัวอย่างที่ ซีโร่ ทำขึ้นจากสตูดิโอเล็กๆ ในห้องนอนของไมค์
นอกจากนี้ทั้ง เชสเตอร์ และ ไมค์ รู้จักกันผ่านทางสำนักทนาย ไมเนียท เฟลพส์ แอนด์ เฟลพส์ (Miniet Phelps and Phelps) ที่ทั้งคู่ใช้บริการ เชสเตอร์สนใจที่จะร่วมงานกับ ซีโร่ มาก จนถึงกับแอบหนีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 23 ปีของตนไปอย่างหน้าตาเฉย เพื่อรีบไปบันทึกเสียงร้องของตนลงเทปตัวอย่างกลางดึก จากนั้นได้โทรศัพท์เปิดเทปตัวอย่างให้กับทางวงฟัง ซึ่งทุกคนชอบมาก จึงรับ เชสเตอร์ เป็นสมาชิกใหม่ทันที
จากนั้นสมาชิก ซีโร่ ทั้งหมดตกลงใจเปลี่ยนชื่อวงเป็น ไฮบริด ธีโอรี่ (Hybrid Theory) แต่บังเอิญไปซ้ำกับชื่อวงดนตรีของศิลปินกลุ่มอื่น จนในที่สุดจำต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นวง ลินคินพาร์ก (Linkin Park) ซึ่งเป็นชื่อที่แผลงตัวสะกดมาจาก ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) ซึ่งมีที่มาที่ไปจากการมองการณ์ไกลไปถึงการสร้างเว็บไซต์ประจำวง เนื่องจากมีการจดทะเบียนซื้อขายชื่อโดเมน ลินคอล์นพาร์ค.คอม (lincolnpark.com) ไปเรียบร้อย ก่อนที่ทางวงจะไปขึ้นทะเบียนวงดนตรีของพวกตน และหากยังคงต้องการใช้ชื่อนั้น ก็ต้องเตรียมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลแน่นอน
นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกามีสวนสาธารณะชื่อ ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) อยู่หลายแห่ง ดังนั้นหากไปเปิดการแสดงดนตรีที่ใดก็ตาม จะกลายเป็นเหมือนกับวงดนตรีท้องถิ่นทั่วไป ที่สำคัญคือทุกคนชอบชื่อ ลินคอล์น พาร์ค และยังเป็นสถานที่ที่ เชสเตอร์ ขับรถผ่านภายหลังจากซ้อมดนตรีเสร็จเป็นประจำ ลินคอล์น พาร์ค เป็นสถานที่แห่งหนึ่งของชนชั้นกลาง และ คนจรจัดของเมืองซานต้า โมนิก้า (Santa Monica)
ต่อมา ลินคินพาร์ก ได้ร่วมงานกับ โปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง ดอน กิลมอร์ (Don Gilmore) ผู้เคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพิร์ล แจม (Pearl Jam ) , เอเพ็กซ์ ธีโอรี่ (Apex Theory) , ชูการ์ เรย์ (Sugar Ray)
Hybrid Theory (2000)
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ออกผลงานชุดแรกของ ลินคินพาร์ก จะใช้ชื่ออะไรไปไม่ได้นอกจากชื่อที่ยังคาใจทุกคนอยู่ นั่นก็คือ "ไฮบริด ธีโอรี่" [Hybrid Theory] ทุกคนยอมรับว่าคือ วลีที่สรุปจุดมุ่งหมายของวงได้ดีที่สุด และต้องมีการใสวงเล็บเพิ่มลงไปด้วย
"ไฮบริด ธีโอรี่" ของวงดนตรีหน้าใหม่วงนี้ ประกอบไปด้วยบทเพลงเยี่ยมยอดมากมาย ที่สามารถทะยานเข้าสู่ ท็อป 20 ของบิลบอร์ด (Billboard Top 20) ได้สัปดาห์แรก บทเพลง วัน สเต็ป โคลสเซอร์ (One Step Closer) โดนใจนักจัดรายการวิทยุทั่วโลกไปเต็มๆ รวมทั้ง ครอวลิ่งก์ (Crawling) และ อิน ดิ เอ็นด์ (In the End)
ช่วงนั้น แบรด (Brad) จบระดับไฮสกูล และเข้าศึกษาต่อที่ ยูซีแอลเอ (UCLA) และเป็นเพื่อนร่วมห้องกับ ฟีนิกซ์ (Pheonix) สมาชิกรุ่นก่อตั้งวงในประมาณปี พ.ศ. 2544 จึงชักชวนให้กลับเข้าร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง ในฐานะสมาชิกคนที่ 6 ของ ลินคินพาร์ก(แต่ในปกผลงานชุด ไฮบริด ธีโอรี่ ลงเครดิตเพียงแค่ 5 คน เท่านั้น)
ลินคินพาร์ก ได้รับรางวัล The favor of MTV's pop-oriented TRL crowd และภายในปี 2544 ออกแสดงทัวร์คอนเสิร์ตทั้งสิ้น 324 คอนเสิร์ต รวมไปถึง การแสดงในเทศกาลดนตรี แฟมิลี่ แวลูส์ (Family Values) อ็อซเฟสท์ (Ozzfest) และ โปรเจกต์ รีโวลูชั่น (Projekt Revolution) ถูกเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลแกรมมี่ 3 รางวัล ในสาขาผลงานเพลงร็อกยอดเยี่ยม (Best Rock Album) ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best New Artist) และ การแสดงดนตรีฮาร์ดร็อกยอดเยี่ยม (Best Hard Rock Performance) และคว้า รางวัลสาขาการแสดงดนตรีฮาร์ดร็อกยอดเยี่ยม (Best Hard Rock Performance) ประจำปี 2544 อีกทั้งยังสร้าง สถิติยอดจำหน่ายสูงสุดแห่งปี 2543 ต่อมา พ.ศ. 254 5 "ไฮบริด ธีโอรี่" ทำสถิติยอดจำหน่ายแพล็ทตินั่มกว่า 8 ล้านแผ่น และ สร้างยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 5 ประจำปี 2545 อีกด้วย
กรกฎาคม พ.ศ. 2545 ออกผลงานรีมิกซ์ชุดต่อมา "รีแอนิเมชัน" (Reanimation)
[แก้]Meteora (2003)
อัลบั้มนี้ใช้เวลานานถึง 18 เดือน ในการเขียนและบันทึกผลงานเต็มชุดที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จภายใต้ชื่อ "เมทีโอร่า" (Meteora) ที่โปรดิวซ์โดย ดอน กิลมัวร์ (Don Gilmore) มิกซ์เสียงโดย แอนดี้ วอลเลซ (Andy Wallace) ผู้เคยฝากผลงานไว้กับ แอท เดอะ ไดรฟ์ อิน (At The Drive-In) , ดิสเทิร์บท์ (Disturbed) , ฟูไฟเตอร์ส (Foo Fighters) , คอร์น (Korn) , ลิมพ์ บิซคิท (Limp Bizkit) , เนอร์วานา (Nirvana) , เรจ อเกนสท์ เดอะ แมชชีน (Rage Against The Machine) และ ซิสเต็ม ออฟ ดาวน์ (System of a Down)
อัลบั้ม Meteora ขายได้ 800,000 copies ใน 1 อาทิตย์. ในอัลบั้ม ประกอบด้วย ซิงเกิล "Somewhere I Belong", "Breaking the Habit", "Faint", and "Numb" เมื่อใกล้ขายได้ 3 ล้าน copies ลินคินพาร์กจึงจัด "Project Revolution" หรือเทศกาลดนตรีของ ลินคินพาร์ก
ลินคินพาร์ก ยอมรับว่า ได้รับอิทธิพลดนตรีมาจาก เดฟโทนส์ (Deftones) , ไนน์ อินช์ เนลส์ (Nine Inch Nails) , เอเฟ็กซ์ ทวิน (Aphex Twin) และ เดอะ รูทส์ (The Roots)
[แก้]Side projects (2004—2006)
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับ อัลบั้ม "Hybrid Theory" และ "Meteora" เชสเตอร์ได้ร่วมงานกับวงอื่น เช่น "Dead by Sunrise" ส่วนไมค์ได้ร่วมงานกับ Depeche Mode. ในปี 2004 วงลินคินพาร์ก ทำอัลบั้ม "Collision Course" ที่นำเพลงจากอัลบั้มเก่า ร่วมกับ "Jay-Z"
[แก้]Minutes to Midnight (2007)
ในปี 2006 ลินคินพาร์กได้กลับเข้าสตูดิโออีกครั้ง และเปลี่ยนแนวเพลง
อัลบั้ม "Minutes to Midnight" ออกวางขาย วันที่ 15 พฤษภาคม 2007 ชื่ออัลบั้มนั้นได้แนวคิดมาจากนาฬิกาโลกาวินาศซึ่งมาจากนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิคาโก หลังจากสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะสิ้นสุดลง อัลบั้มชุดนี้เป็นร่วมกันโปรดิวซ์ระหว่างโปรดิวเซอร์ที่ดังที่สุดแห่งยุค และเจ้าของรางวัล Producer of The Year คนล่าสุดจากเวทีแกรมมี่อย่าง ริค รูบิน และ ไมค์ ชิโนดะ เอ็มซีและมันสมองของลินคินพาร์ก
[แก้]A Thousand Suns (2010)
วันที่ 18 พฤษภาคม 2009 ออกซิงเกิลใหม่ ในชื่อ "New Divide" เพลงประกอบหนัง "Transformers: Revenge of the Fallen".
วันที่ 19 มการคม 2010 วงลินคินพาร์ก ออกซิงเกิลใหม่ ในชื่อ "Not Alone" เพื่อองค์กร "Music For Relief" ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวใน เฮติ. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010 ลินคินพาร์กออกมิวสิควิดีโอของเพลง "Not Alone" ที่หน้าแรกของเว็บ ลินคินพาร์ก
วงลินคินพาร์ก ออกเกม "8-Bit Rebellion" ในวันที่ 26 เมษายน 2010 สำหรับ iPod , iPhone และ iPad. ภายในเกมประกอบด้วย เพลง "Blackbirds" จะถูกปลดล็อกเมื่อผู้เล่น เล่นเกมจบ
วันที่ 6 มิถุนายน 2010 ลินคินพาร์กเปิดเผยว่าอัลบั้มใหม่ใกล้เสร็จแล้ว. มีการกำหนดการจัดคอนเสิร์ต ครั้งแรกของปี 2010 ที่เยอรมัน
วันที่ 8 กรกฎาคม 2010 วงลินคินพาร์ก ประกาศกำหนดวันออก อัลบั้ม "A Thousand Suns" อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 กันยายน 2010. นอกจากนั้น วงลินคินพาร์ก ประกาศชื่อเพลง และ กำหนดวันออกซิงเกิลแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม 2010 เพลง "The Catalyst"
[แก้]แนวเพลง

อัลบั้ม "Hybrid Theory" และ "Meteora" ทั้งคู่แป็นแนวเพลง อัลเทอร์เนทีฟเมทัล นูเมทัล และมีกลิ่นไอของป็อป ฮิปฮอป อัลเทอร์เนทีฟ และ อีเลคโทรนิก้าและเพิ่มโปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่งเสียงและใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงช่วยเพิ่มรูปแบบเสียงที่มีความแปลกใหม่และสนุกยิ่งขึ้น ทำให้เป็นแนวเพลงที่ไม่ซ้ำแบบใครและเป็นสไตล์เป็นตัวของตัวเองอีกด้วย
ในอัลบั้ม "Minutes to Midnight" ได้ทำการทดสอบซาวด์หลายรูปแบบและค้นหารูปแบบเสียงซาวด์เพลงแบบใหม่ๆและได้รับอิทธิพลจากผลงานเพลงของศิลปินวงส์ยูทู และในผลงานชิ้นนี้มีจังหวะเพลงส่วนใหญ่ที่เป็นเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟร๊อค มากกว่าที่จะเป็นแนวเพลงนูเมทัลและแร๊ปร๊อคและในผลงานชิ้นนี้เป็นอัลบั้มแรกที่มีจังหวะโซโลกีต้าซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในอัลบั้มอื่นๆ
อัลบั้ม "A Thousand Suns" ได้คว้าตัว Rick Rubin (U2, Johnny Cash) มาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ Mike Shinoda นักร้องนำ แนวเพลงในอัลบั้นนี้ได้ทำแนวเพลงที่ต่างไปจากอัลบั้มก่อนๆ เนื้อหาเพลงและจังหวะดนตรียังมีความเป็นนูลเมทัล
  นอกเหนือจากผลงานที่ดีแล้ว Linkin Parkยังเป็นวงที่ให้ความสำคัญกับแฟนเพลงมาก ทุกๆครั้งหลังแสดงจบพวกเขามักจะลงมาหากลุ่มแฟนเพลงเพื่อมาจับมือและแจกลายเซ็นต์ให้กับทุกคน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  มีบ่อยที่หนุ่ม ๆ จะยืนแจกลายเซ็นต์จนลานคอนเสิร์ตว่างเปล่าและทุกๆคนได้รับลายเซ็นต์ครบหมด
แก้ไขล่าสุด 24 ธ.ค. 53 23:45 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:25 น.

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของสมาชิกแต่ละคน

Joe..ดีเจจอมกวน ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ซาวนด์ดนตรีของวงมีเอกลักษณ์โดดเด่น
ชื่อ: Joseph Hahn

ฉายา:: Remy
ตำแหน่ง : Turntables, Samples, Beats, & Sounds
อุปกรณ์ที่ใช้ :
Motor-driven Turntables
Rane TTM 54 DJ mixer
AKAI MPC 2000
Emagic Logic Audio
Various effects
Shure M44-7 needles
Custom-made vinyl

Date of Birth: อังคารที่15 March 1977.
Marital Status:โสด
Location: Glendale, CA
Height: 180..เท่าไหร่ยังไม่รู้
Ethnic Origin: Korean - American
Siblings:พี่สาว2คน
สัตว์เลี้ยง: ตุ๊กตากบชื่อbark larkyหรือ kermit.
การศึกษามัธยม: Hoover high school.
จบจาก: Pasadena art college of design แต่เรียนไม่จบ.
งานก่อนหน้านี้: graphic designer
บนตัวJoe: ย้อมผมสีlight chesnut brownไม่มีรอยสักและไม่ได้เจาะที่ไหนเลย

Joe เป็นคนคิดconceptให้กับMV "One Step Closer"-"In The end"-"POA"

Joeเกิดที่Glendale, CA แต่ตอนนี้อยู่ที่ LA

Joe กับChester เห็นด้วยว่าเพลง "Everlong"ของวง Foo Fighter เป็นเพลงที่เจ๋งที่สุดสำหรับพวกเขา

Joeพบกับพี่Mikeที่มหาวิทยาลัยศิลป์ใน Pasadena

Joe กับ Mike เรียนเอกสาขา illustration แต่เขาทั้งสองสนใจในการ painting เหมือนกันและ Joe ศึกษาต่อในสาขา
ภาพเคลื่อนไหวอีก1ปีเต็ม และเขาได้ทำงานกับ บริษัท Sphere and Phantoms ในการสร้างภาพกราฟฟิคเกี่ยวกับ
สัตว์ประหลาดให้ที่นี่

"Mr. Hahn"(อีกบุคคลิกของJoe) มักจะชอบแกล้งแฟนเพลงใหม่ๆที่เพิ่งรู้จักวงเสมอๆ โดยมักแกล้งอำต่างๆนานา
-พี่Bradบอกมา

Joe เป็นหนุ่มเกาหลีนะจ้ะ

Joe ไม่ชอบ เอ็นซิงค์

แก้ไขล่าสุด 24 ธ.ค. 53 23:27 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:26 น.

กลองมีบทบาทอย่างมากในการให้จังหวะกับเพลง จังหวะของกลองเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งเพลง
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและทำให้คุณอยากจะกระโดดตามไปด้วยซึ่งRob สามารถทำสิ่งนี้ได้ยอดเยี่ยมจนคุณต้องยกนิ้วให้

ชื่อ: Robert Gregory Bourdon
ตำแหน่ง : กลอง
อุปกรณ์ที่ใช้ :
Gretsch kit Gibraltar Hardware
Zildjian cymbals
Remo heads
Vater sticks
Rane headphone amp
Alesis DM-5 drum module
Shure E-1 in-ear monitors
D-drum trigger pads

Date of Birth: ศุกร์ที่ 20 January 20th, 1979

Marital Status: มีแฟนชื่อ Sasha

Location: Calabasas,California

การศึกษามัธยม: Agoura high school.

จบจาก: Santa Monica Collegeเอกaccounting.

งานก่อนหน้านี้:บ๋อย

งานอดิเรก:กลอง piano, แต่งเพลง, กิน

Favorite Foods: Mexican, Italian

สถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบ:ชายหาด

เพลงโปรดใน Hybrid Theory: In The End

Robเป็นยิว

Robไม่เคยเล่นผิดเลย แม้ซักตัวโน๊ตเดียว(เขาว่าเป็นเพราะการฝึกซ้อมอย่างหนัก)

Robชอบทานไอศครีมรสวานิลลา

Rob เริ่มตีกลองตั้งแต่อยู่ประถม

แรงบันดาลใจที่สำคัญของเขาคือJoey Kramer (มือกลองของAerosmith) เพราะแม่ของRobรู้จัก Joey ดี
เลยพาเขาไปหลังเวทีรวมทั้งได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง และสิ่งนี้จุดประกายให้เขาอยากเป็นมือกลอง

Linkin Parkไม่ใช่วงแรกของRobเขาเคยเล่นกับวงๆหนึ่งตอนอายุแค่13 ขวบเท่านั้น เขาชอบวง Nirvanaและมักจะเล่น
เพลง 'Smells Like Teen Spiritกับเพื่อนของเขาเป็นประจำ

Rob ชอบเล่นเปียนโนเสมอๆเวลาว่าง

เขาเคยเรียนเปียนโนแบบคลาสสิกมาก่อน และเขาก็ว่าเขาจะเรียนมันต่อไปเรื่อยๆด้วย

Robบอกว่าเขาเลือกที่จะเป็นเจ้าหญิงJasmineเพราะว่าเข้าคู่ Phoenixได้ (อ่านของ 'Phoenix'แล้วจะเข้าใจ)

สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดคือ เวลาที่Hybrid Theoryได้รับรางวัลแผ่นทองคำ

แก้ไขล่าสุด 24 ธ.ค. 53 23:27 | ไอพี: ไม่แสดง

#3 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:28 น.

Mike เป็นผู้ที่นำดนตรีHip-hopเข้ามาผสมในบทเพลงของLP ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ไม่เหมือนใคร ทำให้Mikeจัดเป็นคนเก่งคนหนึ่งในวงการเพลง


ชื่อ: Michael Kenji Shinoda.

ตำแหน่ง : Vocals, Beats + Samples, Keyboards, Guitar

อุปกรณ์ที่ใช้ :
Audio Technica wireless mic
PRS guitars
Mesa Boogie Dual Rectifier heads
Mesa Boogie cabinets
Digidesign Protools software & hardware
Anteres software
Waves software
Emagic hardware
Roland keyboard modules
AKAI S-900 & MPC 2000 samplers

Date of Birth: ศุกร์ที่ 11 February 11th, 1977.

Marital Status: หมั้นแล้วกับแฟนสาวที่คบมานาน Anna .

Location: Agoura,CA.

สูง: 180 cm

พี่น้อง:มีน้องชายชื่อ Jason (Mikeมักเรียกว่า Jay)

สัตว์เลี้ยง:สุนัขพันธ์ Collieชื่อ Bessie (อยู่กับแม่) และปลา.

การศึกษามัธยม: Agoura high school.

จบจาก:The Pasadena Art College of Design เรียนเอก illustration but studied graphic design heavily

ผลงานเพลงชิ้นแรกที่ซื้อ: Bon Jovi Slippery When Wet! :-)

งานก่อนหน้านี้:Graphic designer

แรงบันดาลใจ: เพราะConcert Killer B's show.

Mike เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น(พ่อเป็นญี่ปุ่น แม่เป็นสหรัฐ

Mikeมีชื่อกลางว่า Kenji

Mikeชอบฟังเพลงของ Kittie, the Sneaker Pimps, Portishead, Madonna, Dido, etc...

Mike ได้งานเกี่ยวกับgraphic designer หลังจากจบมหาวิทยาลัย

Mike พบกับพี่ Brad ตอนม.1

Mike ใช้กีตาร์ของ Paul Reed Smith CE-22 guitar.

Mikeชื่นชอบนักร้องสาวนาม Dido มากๆเลย

อัลบั้มที่ Mikeชอบฟัง มีดังนี้:
Deftones - "White Pony" ,The Roots - "Things Fall Apart" , Nine Inch Nails - "The Fragile" ,
Black Eyed Peas - "Bridging The Gap" , Incubus - "Make Yourself" , System Of A Down -
"System Of A Down" , Dido - "No Angel" , Jurassic 5 - "Quality Control" ,Stone Temple Pilots - No.2"
Eminem - "The Marshall Mathers LP" .

Mikeบอกว่านี่คือเพลงโปรดของเขา:
Jurassic 5 - "Improvise" A Perfect Circle - "3 Libras" ,Outkast -"B.O.B." , Deftones -
"Change (In The House Of Flies)" ,Taproot - "Again & Again" , Eminem - "Kill You" ,
Aphex Twin - "Windowlicker" ,P.O.D. - "Southtown" , Lmno - "Grin & Bear It" ,Disturbed "Stupify" .

Mikeเคยเรียนเปียนโนแบบคลาสสิกตอนอายุ 10ขวบ จนรู้สึกเบื่อเลยหันไปสนใจเพลง jazz และมาเป็น
hip hop ในที่สุด

ก่อนที่ Chester จะเข้ามาร่วมวง.. Mikeต้องทำหน้าที่เป็นนักร้องนำ

Mikeบอกว่าGizmo และ Spike..เกรมลิน เหมือนเขามากที่สุด

MikeชอบMVของวง Aphex twin เพลง'Window licker'มากๆ เพราะคิดว่ามันสนุกดี

Mike คุยกับคนได้แค่ครั้งละคน เพราะถ้าเกินกว่านั้น เขาบอกว่าเขางง ไม่รู้จะคุยกับใครก่อน

Mikesบอกว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการทำงาน 2เดือน ในห้องบันทึกเสียงคือการอยู่กับ Bradเพราะแกไม่ชอบอาบน้ำ

Mike ใส่คอนแทคส์เลนส์ เพราะสายตาสั้น

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:30 น.

ไลน์เบสของPhoenixสามารถทะลุทะลวงเข้าไปถึงโสตประสาทของคุณได้ ด้วยสไตล์การเล่นที่
หาตัวจับยาก และสามารถถ่ายทอดทำนองได้ดีแบบที่น้อยคนนักจะทำได้

ชื่อ: David Michael Farrell

ตำแหน่ง : bass
อุปกรณ์ที่ใช้ :
Ernie Ball Music Man Sting Ray basses
Ampeg SVT Classic heads
Ampeg SVT Classic cabinets
Dean Markley Blue Steel strings
Dunlop Picks (.88)
DBX 160 compressor
Monster cables
Sans Amp
Boss pedals
Whirlwind direct boxes
Shure wireless

วันเกิด:อังคารที่ 8 February , 1977

สถานะ: Daveมีแฟนแล้ว

Location: Plymouth, Massachusettsแต่ตอนนี้อยู่ที่ LA.

จบจาก: UCLA

วงก่อนหน้านี้:เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Xeroแต่ไปออกทัวร์กับThe Snaxประมาณ1ปีก่อนกลับมา Linkin Park.

งานอดิเรก :ฟุตบอล - snow board - video games :-).

แรงบันดาลใจ: การที่ โดนแม่หัวเราะตอนบอกว่าจะหัดกีต้าร์

เครื่องดนตรี: bass, violin, guitar และ Chello!

ประสบการ์ณบนเวที:ลื่นตกลงไปหน้าเวทีตอนแสดง

วงที่ชอบ: Weezer, Beatles, Deftones, Roots, Bob Marley, Sarah McLaughlin, Hughes & Wagner,
Harrod & Funck.

Phoenixชอบทานไอศครีม Mocha Almond Fudge

ความประทับกับแฟนเพลงที่สุดของPhoenix คือ แฟนเพลงที่Minneapolisร้องเพลงhappy birthday ให้แก ่Phoenix
ในวันเกิดของเขา

Phoenix ชอบหนังเรื่อง Brave heartมากที่สุด

Phoenixบอกว่า ผู้หญิงที่วิเศษที่สุดคือแฟนสาวของเขา

Phoenixอยากจะตีกลองเป็นเหมือนROBบ้าง

Phoenix ชอบงีบหลับมากที่สุด

ฮีโร่ที่เป็นแรงบันดาลอีกคนของPhoenixคือพี่ชายของเขา (Joe)

Phoenix ชอบทานอาหารเม็กซิกัน

Phoenixว่าเจ้าชาย อาลีจาก เรื่อง อาละดิน เหมาะที่จะเป็นเขามากที่สุด

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:32 น.

Brad เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการเล่นกีตาร์ เค้าไม่เพียงแค่เล่นท่อน
riff ได้สะเทือนเข้าไปในอกคุณได้เท่านั้นแต่เค้ายังสามารถเล่น Melodic ได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย

ชื่อ: Bradford Philip Delson

ชื่อเล่น: Big Bad Brad
ตำแหน่ง : กีตาร์
อุปกรณ์ที่ใช้ :
Ibanez guitars
PRS guitars
Mesa Boogie Dual Rectifier heads
Mesa Boogie cabinets
D'Addario strings (10XL)
Boss Pedal effects
D'Addario cables
Dunlop picks (.83)
Shure wireless

วันเกิด:วันพุธที่ 1 ธันวาคม ปี1977
Marital Status: Bradมีแฟนแล้ว
Location:Agoura, CAแต่ตอนนี้อยู่ที่ LA
Height:180cm

การศึกษามัธยมl: Agoura high school

จบจาก:UCLA

งานเพลงชิ้นแรกที่ซื้อ: Duran Duran People are people

งานอดิเรก: Skateboarding, MTV, นอน, internet,Soprano's

อัลบั้มที่ชอบ: Sunny Day Real Estate "Diary."

แรงบันดาลใจ: Chester, Britney Spears, Dave Matthews, Stefจากวง Deftones

เครื่องดนตรี: trumpet - guitar - bass

ชอบฟัง: groups like the Roots and Blackeyed Peas JaRule Deftones, Sunny Day Real Estate...
Depeche Mode, Nine Inch Nailsและ Dido.

สีโปรด: น้ำเงิน

Brad ใส่รองเท้าเบอร์11

พี่Brad เป็นยิว

Brad พบพี่ Mike ตอนม.1

ทุกคริสต์มาส บ้านพี่Bradมักจะจัดเลี้ยงอาหารฟรี แก่พวกคนน่าสงสารที่ไม่มีบ้าน พวกคนจรจัด และ
Mike ก็มักจะไปช่วยทุกปีเลย (น่ารักจริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | spit_it_out | 24 ธ.ค. 53 23:33 น.

Chester..จุดเด่นของเขาคือ การที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาทางน้ำเสียงได้อย่าง
ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียว เค้าก็สามารถทำได้ครบถ้วน นำเสียงของเค้าสะท้อน
ความรู้สึกไปถึงจิตวิญญาณของคุณเลยทีเดียว


ชื่อ: Chester Charles Bennington

ตำแหน่ง : ร้องนำ

อุปกรณ์ที่ใช้ :
-Audio Technica Wireless Mics
-Yamaha SPX 990
-Takamine guitars
-DVS/Matix action figure steelo BIATCH!


Band Nickname: Chazzy Chaz, Chemist :-)

Date of Birth: เสาร์ที่ 20 March 1976.

Marital Status: แต่งงานแล้ว วันที่ 31 ตุลาคม 1996 กับ Samantha.

บุตร: ลูกชาย Draven Sebastian (เกิด 19 April 2002).

Location: Phoenix, Arizona

Height: 180 CM

พี่น้อง: พี่ชายที่แก่กว่า39ปีและพี่สาว2คน

สัตว์เลี้ยง:สุนัข 2 ตัวพันธ์ Australian shepherd กับ Rottweillerผสม Labrador

การศึกษา: First - Greenway High Schooและมาต่อที่ Washington High School จนจบในปี 1994.

เครื่องดนตรีชิ้นแรก: Piano.

แรงบันดาลใจ: Robert Plant (Led Zeppelin)และ Scott Weiland (Stone Temple Pilots).

อดีต: นักร้องนำ Grey Daze before (1993)

ชอบ: guitarและการเปลี่ยนสีผม

Chester ชอบวง the Misfits.

Chester ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆเลย

Chester ชอบ albums ของ Black Celebration, Purple, Zeppelin

Chester คpลั่งไคล้ Robert Plant กับ Scott Weiland.

Chester มีวงของตัวเองตั้งแต่ 13

Chester รักกีตาร์ของเขามากๆ และเอาไปด้วยทุกครั้ง

Chester เป็นคอเบียร์ตัวเอ้

คำขอแปลก ๆ ที่ Chester เคยเจอ คือมีแฟนเพลงมาขอเสื้อผ้าของเขา

สิ่งที ่Chester คิดว่ามีค่าต่อชีวิตเขาที่สุดคือการที่ได้เข้าร่วมวง

Chester เคยโดนจับเพราะกัญชา

Chester เคยเล่นกระดานถไลลงมาจากเนินหิมะ และตกลงมาศีรษะกระแทกพื้นคอนกรีตข้างล่างทำให้เขามีแผลเป็น
ตามตัวทั้งหมด 47 แห่ง Chester เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งเพราะ.. ผมเสียสนิทเพื่อนไปหลายคนตอนเด็กๆ
เพราะการเล่นสเก็ตบอร์ดแบบพลิกแพลง พวกชวนพวกเขาไป และขณะที่เล่นอยู่นั้นพวกเขา
พลาดตกลงมาจากที่สูง ศีรษะกระแทกพื้นและเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นผมไม่แตะต้องมันอีกเลย
ผมจะเล่นมันต่อเมื่อเป็นเกมส์ที่อย
ู่ในเพลย์สเตย์ชั่น."

Chester มีCDของMadonna ทุกแผ่น

อัลบั้มโปรดของ Chester คือ :
1) Fugazi , 13 Songs
2)Al Green, Greatest Hits
3)Led Zeppelin, IV
4)The Beatles, the White Album
5)Stone Temple Pilots, Purple

Chester เป็นคนเดียวในวง ที่แบกตู้เสื้อผ้าไประหว่างออกทัวร์ เขามีรองเท้าของเสื้อผ้าทุกชุด,
กางเกงในก็ต้องเข้าคู่กับเสื้อผ้าที่ใส่,ถุงเท้าต้องเข้าคู่กับรองเท้าที่สวม การเลือกกางเกง
เป็นอะไรที่ยุ่งยากและใช้เวลามากสำหรับเขา

Chester ชอบหนัง"Fight Club"ที่สุด

Chester ชอบเข้าครัวทำกับข้าวมากๆ

Chesterชอบ อ่านหนังสือของAnne Rice 'Vampire Chronicles' series กับ "Hannibal"

Chester ติดเกมส์ 'Tony Hawk II', เอามากๆ

Chester เป็นแฟนของอเมริกันฟุตบอลทีม Phoenix Cardinals

Chester บอกว่าเขาคือ Mr. Hanky จากเรื่อง South park

Chester บอกว่าสิ่งที่ทำให้เขาประทับใจมากที่สุดคือการได้แต่งงานกับ Sammy

Chester เคยโดนละเมิดทางเพศตอนเด็กๆและติดโคเคนตอนวัยรุ่น

พี่ชายของ Chester สอนให้เขาร้องเพลง 'Hot blooded' ตอน 2 ขวบ

Chester กับ Samantha ออกแบบเลื้อผ้าให้เว็บ Replicant Clothing ที่ลงขันกับ Ryan Shuck.

รอยสักที่มี

1:รูปไฟธาตุราศีเกิด
2: สัญลักษณ์ราศีมีน
3: ปลาคารพ์
4: ทหารมีปีกจากปก "Hybrid Theory"ขาซ้าย
5: คนหกแขน
6:แหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้าย
7:มังกรที่ขาขวา
8: คำว่าLINKIN PARKบนหลัง
9: แหวนที่นิ้วก้อยข้างซ้าย


Credit: wikipedia.org
ขออภัยที่ไม่สามารถลงลิ้งค์ต้นฉบับบางอันได้
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ


รายชื่อสมาชิกสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ
spit_it_out
FB.of.TURK
bourdonLP
J-Mc._Lewis*
Twitchington
OrphanBlink
ข้าวว์ย์ปรั้นนน์ย์ส์
khan03
เด็กกวอน
guruu
`เจ้าแม่|ชาร์มเมอร์.
คุณนายเลอร์แมน_'
Greydy's;143
`xxxxxx,xxx.
METEORA_LP*
JB_Lambert
Adam'oose.{ATL
Bring_Me_The_Screamo
PeaceZa
veronika_gaara
Gna'Rock
Disney~GoGo!!
+bestiffxoxo`
[|_\=MinnerZzZ=/_|]
_*2PARK_']]*21_
LinkinPark~only!
A-THOUSAND-SUNS,,@*
`เฮอร์มี่อดิศวร+
มาดามเอด้าพิฆาตติ่ง*
~X~Monster,Minaj
u'nEverAl๐ne|s๐
affmariah
`จันทร์เจ้า;__LP
IKKI
G'_Way_หน้าผี_ToT

หากท่านใดต้องการเข้าร่วมสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ เพียงแค่ลงชื่อและบอกชื่อวงที่ท่านชื่นชอบมาครับ

spit_it_out
สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ

แก้ไขล่าสุด 27 ธ.ค. 53 23:13 | ไอพี: ไม่แสดง

#7 | [*\_|MinnerZzZ|_/*] | 24 ธ.ค. 53 23:49 น.

มาเม้นให้ก่อน เดี๋ยวอ่าน

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | Let'stalkthisover | 24 ธ.ค. 53 23:50 น.

เหนื่อยแทน จขกท. ค่ะ 
กระทู้นี้มีสาระอย่างมาก
นับถือจริงๆค่ะ
 

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | KADEZII' | 25 ธ.ค. 53 00:10 น.

เห้ย เจ๋งมาก จขกท นับถือจริงๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | METEORA_LP* | 25 ธ.ค. 53 00:12 น.

Linkin Park เป็นวงต่างประเทศวงแรกที่นุชชี่ฟัง ช่วงนั้นยังเด็กๆอยู่ บอกอายุไปคงงง 5555.   เพลงที่ฟัง จำได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ One Step Closer ver.Underground 1 เป็นอะไรที่สุดๆ  ฟังครั้งแรก ชอบเลย รู้สึกมันมันส์ดี พี่ข้างบ้านเปิด (ไม่รู้มันได้มาจากไหน) เราก็คอยฟังพี่ข้างบ้านเปิด (ไม่มีเงินซื้อ) ยังเด็กอยู่ แม่ไม่สนับสนุน พอเริ่มติดอินเตอร์เน็ต เริ่มคลิกๆเสิร์ชๆ เพลงแนวนี้บ้าง วงนี้เป็นวงที่นุชชี่ชอบมากที่สุดในดวงใจเลย และก็อีกวง A7X   เวลาที่ อ.ให้เขียนความฝัน ก็จะชอบเขียนว่า 'อยากไปทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกกับ LP' 555555. และก็โดนหักคะแนน เพราะแลดูไม่วิชาการ



ปล. พี่เจน่าลงไลฟ์เพลง runaway 5555.

แก้ไขล่าสุด 25 ธ.ค. 53 00:18 | ไอพี: ไม่แสดง

#11 | spit_it_out | 25 ธ.ค. 53 00:30 น.

แหล่งข้อมูลของวงนี้ค่อนข้างแน่นและมีให้เลือกมากมายครับ เนื้อหาอาจจะเยอะไปนิดหนึ่ง
ตอนทำกระทู้นี้ผมค่อนข้างปวด ก-บาลพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ขอถือโอกาสนี้ Merry X'Masทุกๆท่านด้วยนะครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | เด็กกวอน | 25 ธ.ค. 53 09:52 น.

เนื้อหาโครแน่น
LPคือสุดยอดจริงๆชอบมากเพลงแรกที่ได้ฟังคือ numb
แบบฟังแล้วชอบเลย ตอนเด็กถึงกับเอามานั่งฝึกร้อง 5555+
แต่ LP เป็นวงร๊อกวงแรกๆที่รู้จักเลย เป็นวงที่ทำให้เราหันมาติดเพลงร๊อกงอมแงม
ปล้ำยูล.กระทู้ของจขกท.เจ๋งว่!!!

แก้ไขล่าสุด 25 ธ.ค. 53 09:53 | ไอพี: ไม่แสดง

#13 | dreamdfrd | 25 ธ.ค. 53 10:21 น.

กระทู้นี้โคตรมีสาระ >,<

ไมค์ฟังเพลงของป๋าเอ็มม์ด้วย >< ฮ่าๆ

อัลบั้มโปรดของ Chester คือ :
1) Fugazi , 13 Songs
2)Al Green, Greatest Hits
3)Led Zeppelin, IV
4)The Beatles, the White Album
5)Stone Temple Pilots, Purple

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | [*\_|MinnerZzZ|_/*] | 25 ธ.ค. 53 10:59 น.

อ่านแล้ว ข้อมูลมาจากหลายที่มาก เพราะเคยเห็นอยู่เว็บนึงครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | affmariah | 25 ธ.ค. 53 13:23 น.

ชื่อ affmariah

วงที่ชื่นชอบ
paramore
linkin park
daughtry

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | A-THOUSAND-SUNS,,@* (ไม่เป็นสมาชิก) | 25 ธ.ค. 53 15:30 น.

แอร๊ยยยย่าาาาาห์!!!!! xD
ในที่สุดก็ถึงคราวเปิดตัว LP!! (?)
ขอบคุณมากค่ะพี่เจ! 




Merry Christmas ทุกคนเช่นกันค่า

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | xepears | 25 ธ.ค. 53 15:33 น.

โอ้ว อักแน่นไปด้วยความรู้ สาระ จนไม่สามารถอ่านได้หมด 

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | alighthouse17 | 25 ธ.ค. 53 17:51 น.

อ่านไม่หมด = =

PS.โคตรชอบเชสเตอร์กับไมค์

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | ``(ไมอาญ๊เย่-`l | 25 ธ.ค. 53 17:55 น.

เดี๋ยวอ่านให้จบบ 555 

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | `?Qite.*/ | 25 ธ.ค. 53 19:39 น.

เจิม ไว้ก่อน

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | QSVHRC:) (ไม่เป็นสมาชิก) | 26 ธ.ค. 53 00:01 น.

ชอบมากๆ วงนี้เค้าสุดยอดจริงๆ ฟังแล้วติดหูเลยทุกเพลง 

ปล. อยากให้เสนอ My Chemical Romance ♥♥ <3

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | `จันทร์เจ้า (ไม่เป็นสมาชิก) | 26 ธ.ค. 53 13:02 น.

วงนี้ ปิ๊้งมาก ;)
ดิท ลืมใส่ชื่อวง LINKIN PARK .

แก้ไขล่าสุด 26 ธ.ค. 53 13:16 | ไอพี: ไม่แสดง

#23 | LinkinPark~only! (ไม่เป็นสมาชิก) | 26 ธ.ค. 53 13:34 น.

รักวงนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดดดด

ไอพี: ไม่แสดง

#24 | IKKI | 26 ธ.ค. 53 13:40 น.

ขอลงชื่อด้วยคน ^ ^ ชื่อ IKKI  วงท่ชอบ  :  linkin park , [b]my chemical romance ,fall out boy  etc .

อยากบอกว่า จขทก เป็นคนที่ขยันมาก ฮ่า ฮ่า ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านกัน (ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว) เราชอบพี่ แบรด มากกก ฮ่าาาา

ปล.เห็นด้วยกับ คห 21 อยากให้ครวหน้านำเสนอ mcr  จ๊ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#25 | Fame*AP*... | 26 ธ.ค. 53 20:03 น.

วงนี้ที่สุดในใจ ช๊านนน 55+

ไอพี: ไม่แสดง

#26 | bourdonLP (ไม่เป็นสมาชิก) | 27 ธ.ค. 53 00:07 น.

ไม่เคยจะรักวงไหนเท่า LP เลย ไม่คิดจะรักวงไหนแล้วด้วย คลั่งสุดๆ ชนิดที่ว่าจะเอาคีมมางัด เอาช้างมาฉุด เอามีดมาตัด ก็ไม่มีวันแยกจากฉันไปได้ และขอขอบคุณ จขกท.ที่นำข้อมูลมาให้ดูแต่เราก็เคยดูแล้วแหล่ะ มะเป็นไรยังไงเราก็อ่านไม่เบื่อหรอก เรารักทุกคนในวง LP มาก แต่ถ้าเป็นพิเศษ อยากจะให้มาเป็นพี่ชายจริงๆหล่ะก็ คือ P'Rob อะ (มือกลองอะ) เราชอบเขามากเลยเคยฝันถึงว่าพี่เขาได้มาอวยพรวันเกิดแล้วได้กอดเราด้วย อิอิ
อยากฝันอย่างนี้บ่อย เอิ่ม.... ไม่รู้สิว่าจะพูดอาไรอีกแล้วอะ เอาเป็นว่า รักทุกคนใน LP ก็แล้วกัน
      LOVE LP 4EVER

แก้ไขล่าสุด 27 ธ.ค. 53 00:07 | ไอพี: ไม่แสดง

#27 | LinkinPark~only! (ไม่เป็นสมาชิก) | 27 ธ.ค. 53 17:34 น.

วงนี้เป็นวงแรกที่รู้จัก
ตอนนั้นอายุเจ็ดขวบละก้ไปบ้านพี่ชาย ซึ่งพี่ชายกะลังบ้าวงนี้
ได้ฟังครั้งแรกก็ชอบเลยย
ตอนนี้ก็ยังคลั่งวงนี้เหมือนเดิม  คลั่งเลยล่ะไม่ใช่แค่ชอบ
ถ้าได้เจอตัวจริงคงสลบเลยล่ะ! 
ตอนนี้วงนี้ก้ยังเป็นที่หนึ่งในใจเหมือนเดิม

แก้ไขล่าสุด 27 ธ.ค. 53 17:35 | ไอพี: ไม่แสดง

#29 | `|silverbullet? | 27 ธ.ค. 53 21:47 น.

ขอบคุณมากครับ 
ชอบฟังเพลงของวงนี้มาก มันส์สุดๆ!

ไอพี: ไม่แสดง

#30 | Bachelorette#1 | 27 ธ.ค. 53 21:54 น.

ป๋าเชสสสส

แปะไว้นะคะ > <

ไอพี: ไม่แสดง

#31 | spit_it_out | 27 ธ.ค. 53 23:16 น.

ขอขอบคุณทุกคำติชมทุกๆเสียงครับ
สำหรับMCRที่Requestกันเข้ามานั้น  ตามไปที่กระทู้นี้ได้เลยครับ
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=1968803
จัดไปอย่าให้เสีย

ไอพี: ไม่แสดง

#32 | noelle | 8 ม.ค. 54 23:15 น.

รักวงนี้มาก

ไอพี: ไม่แสดง

#33 | 'Bitch' | 4 มี.ค. 54 13:03 น.

แอร๊ยยยยยยยยย

ไอพี: ไม่แสดง

#34 | .-_- | 19 ส.ค. 54 21:22 น.

ยาวมากพี่เจแปะไว้น้า 

ไอพี: ไม่แสดง

#35 | สวนมะนาว. | 22 ม.ค. 55 20:34 น.

แปะๆ เดี๋ยวมาอ่านนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google