(ถามแบบอยากรู้สุดหัวใจ555) คนที่ติดแพทย์มหิดล........

16 ธ.ค. 56 20:32 น. / ดู 5,216 ครั้ง / 2 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์
ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ชื่อกระทู้ดูด้วนๆนะแต่มันเขียนได้ไม่หมดT^T จะเขียนถามว่า
คนที่สอบติดแพทย์มหิดลเนี้ย ตอนมัธยมปลายเค้าเรียนกันยังไง หนักแค่ไหน

อาจดูถามโ.ง่ๆนะ มันก็ต้องหนักมากใช่ป้ะล่ะ แต่แบบเรียนอะไรบ้าง เรียนยังไง แบบติดได้ไง ==''
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | ชมพูน้อยหอยสังข์ | 17 ธ.ค. 56 12:06 น.

เราขอตอบนะคะเราไม่ได้เรียนแพทย์มหิดล แต่พี่เรา2คนสอบติดแพทย์มหิดล พี่เราแทบไม่เรียนพิเศษเลย คนแรกเรียนแค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวนางเก่งมากกกกกกกกก วิชาอื่นๆติวเอาเองรุ่นพี่เราน่าจะไม่มีแกทแพทนะคะพี่เราสอบติด10กว่าปีที่แล้ว แต่พี่เราไม่เรียน นางเรียนวิศวะแทน ตอนแรกเป็นนักวิจัยที่ธรรมศาสตร์ #บอกเพื่อ คนที่สองพึ่งเรียนปี1ค่ะ พี่เราคนนี้อ่านหนังสือเรียนทั้งวัน ซื้อหนังสือแต่ละวิชามาติวเอง วันๆทำแต่ข้อสอบจ้า ขยันเรียนมาเป็นตัวท็อปๆของโรงเรียนเลย โควต้าอันดับ3ตอนเข้ามอปลาย ปิดเทอมก็ไปติวพิเศษจ้า นางเรียนเก่งมากกกกกก

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | spit_it_out | 19 ธ.ค. 56 15:04 น.

พี่ขอตอบในฐานะของคนที่เคยสอบติดเมื่อ10ปีก่อนครับ
พี่ขอพูดตั้งแต่พื้นฐานตอนเรียนม.ต้นเลยแล้วกัน พี่จบม.3เกรด2.98ครับ แถมเทอมสุดท้ายติด 0 ไปตัวหนึ่ง พอขึ้นม.4 พี่สำเหนียกตัวเองว่าพี่มันห่-วย ต้องขยันมากกว่าคนอื่น จะมาทำตัวแย่ๆ เรียนหนังสือไปวันๆก็คงไม่ได้แล้ว
ม.4เป็นปีที่พี่เปลี่ยนแปลงตัวเองเลยครับ พี่สัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่มีทางกลับไปติด 0 อีกแล้ว
วิธีการตอนม.ปลายที่พี่ใช้ก็คือ เริ่มแรกจะวางตารางการทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมไว้ในแต่ละวันตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนครับ ทุกอย่างจะ Run ไปตามตารางที่พี่ได้วางแผนไว้ทุกประการ สิ่งสำคัญคือวินัยในการทำให้ได้ตามที่เราวางแผนไว้ครับ รายละเอียดพี่ไม่ขอขยายความนะครับ ของแบบนี้เป็นศิลปะการวางแผนของใครของมัน ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ บางคนวางแผนวางตารางไว้อย่างดี แต่ไม่เคยมีวันไหนทำได้ตามตารางเลย แบบนี้ก็ไม่รู้จะวางแผนไว้ทำไม
สิ่งแรกที่เริ่มต้นเกี่ยวกับเรื่องเรียนก็คือการอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนเข้าเรียนครับ พี่จะอ่านล่วงหน้าทุกวิชา แต่จะไม่สนใจว่าเราจะเข้าใจหรือไม่ พี่อ่านแค่ผ่านตาก่อนครับ จากนั้นจึงไปทำความเข้าใจในห้องเรียนอีกครั้ง สำหรับพี่ การอ่านล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียนนั้นสำคัญต่อพี่มาก เพราะเป็นการเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนที่ดีมาก ทำให้พี่สู้กับเพื่อนคนอื่นๆที่เค้าไปกวดวิชาล่วงหน้ามาได้อย่างสบายๆ เลิกเรียนถ้ายังมีข้อสงสัยก็ไปถามอาจารย์ จะไม่ปล่อยความสงสัยนั้นไว้นานเด็ดขาด ตกเย็นมาพี่ก็ไปออกกำลังกาย เตะบอล วิ่ง เล่นบาสกับเพื่อนๆ กลับห้อง อาบน้ำ ทานข้าว ทำการบ้าน อ่านหนังสือ ซ้อมทำโจทย์ข้อสอบเก่าๆ ตื่นเช้ามาก็อ่านหนังสือ เรียนพิเศษกวดวิชาอะไร พี่ไม่เคยไปครับ เพราะไม่มีเงินมากพอขนาดนั้น
ปิดเทอมพี่ไม่ได้ไปติวอะไรทั้งนั้น ทำงานพิเศษ เก็บเงิน ว่างก็ต้องอ่านหนังสือ นานๆทีถึงจะได้ไปเดินเที่ยวเล่นเหมือนเด็กทั่วๆไป
ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยครับ แต่พี่รู้ตัวเองเสมอว่าเราต้องขยันมากกว่าคนอื่น เพื่อนๆอ่านหนังสือกันวันละ5-6 ชม. พี่ต้องอ่านมากกว่านั้นหลายชั่วโมง เพื่อนๆซ้อมทำโจทย์วันละร้อยข้อ พี่ต้องซ้อมทำโจทย์วันละพันข้อ
แม้ต้นทุนเราจะน้อยกว่าคนอื่น แต่ใช่ว่าเราจะต้องแพ้คนอื่น ของแบบนี้อยู่ที่กลยุทธหรือแท็คติคที่เราใช้เรียนครับ เพื่อนพี่บางคน วันๆไม่ทำอะไร พอใกล้จะสอบ อ่านหนังสือรอบเดียวไปสอบก็ได้เกือบเต็มแล้ว
พอตอนเอนทรานซ์ คะแนนเต็ม 700 คะแนน พี่ได้ 600 กว่าครับ แต่ก็ไม่เลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกก็คือว่า ไม่มีทางลัดใดใดที่จะไปสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณอยากอยู่เหนือคนอื่น คุณก็ต้องลงมือทำมากกว่าคนอื่นครับ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google