[ReviewMyTrip] เ หิ น ฟ้ า ไ ป ต ะ ลุ ย โ ต เ กี ย ว !!!

12 พ.ค. 57 16:34 น. / ดู 4,219 ครั้ง / 16 ความเห็น / 22 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีค่ะ

แนะนำตัวกันโหน่ยยย
เราชื่อ จินนี่ นะ

อายุ 17 ปี -- จะม.6 ล้าวว


ค อ น แ ท ค มี . . .

เฟส https://www.facebook.com/jinniez.Naweeya
ไอจี @jinniez_nr
Ask.fm @jinnynr

แอดได้ฟอลได้ทักได้น้าาาา แต่ส่งข้อความมาก่อนนะคะ 


---------



ใกล้เปิดเทอมแล้ว เสียใจเบาๆ อยากปิดเทอมต่ออีกสักเดือน 5555555

เข้าเรื่องๆ
ช่วงต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา เราได้ไปเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัยมา
เราไปวันที่ 3-7 เมษายนนะคะ
แต่ไม่ได้แบ็คแพ็คไปเอง เราไปกับทัวร์ค่ะ  เพราะว่าไปญี่ปุ่นครั้งแรก
เลยขอใช้บริการทัวร์ก่อน

ถ้างั้น มาเริ่มกันเลยยยย

วันอังคารที่ 2 เมษายน 2557 คาบเกี่ยววันที่ 3 เมษายน
เวลา 22.45 น. โดยประมาณ
สถานที่ ห้องนอนของเราเอง


ตอนนั้นสามีตีตราเพิ่งอวสานไปได้ไม่นาน แม่บอกว่าจะไปนอนก่อนก็ได้นะ
คือตามโปรแกรมทัวร์ เราต้องไปถึงสุวรรณภูมิตอนตีสามครึ่ง
เพราะไฟลท์บินคือ 5.30 น.

ตอนแรกเราก็แบบ ไม่นอนก็ได้มั้ง เดี๋ยวก็ต้องออกจากบ้านแล้ว
ไปเอานิยายมานอนอ่านเล่น รู้ตัวอีกทีก็สลบไปแล้ว หลับทั้งๆที่มือยังถือนิยายอยู่ 

เวลา 01.30 น.

แม่: จินนี่ ยังไม่ตื่นอีกเหรออออ ตีสองครึ่งจะเรียกแท๊กซี่ละนะ!!

สภาพคือกระเด้งขึ้นมาจากเตียง หัวฟู หันไปมองนาฬิกา ตกใจเบาๆ
รีบลุกไปทำธุระส่วนตัว ปรากฏว่า เราแต่งตัวเสร็จคนแรก #กำ แล้วฉันจะรีบทำไม
คือแบบ พ่อ แม่ พี่เราชิลๆกันมาก เปิดประตูไป แม่ยังเขียนคิ้วอยู่ 

จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณตีหนึ่งสี่สิบห้านาที ทุกคนก็แต่งตัวกันเสร็จ
เตรียมลากกระเป๋ามารอแท๊กซี่หน้าประตูรั้ว อารมณ์ประหนึ่งผู้ออกจากบ้านเอเอฟ
#จะไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้าาาา

หลังจากแท๊กซี่มา ปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางสี่ใบควา.ยใส่ท้ายรถไม่ลง
เราเลยต้องนั่งเบียดๆกับกระเป๋าไปจนถึงสนามบิน
ในที่สุด เราก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

ซึ่งเรามาเลทสุดเลย #กำ แบบครอบครัวอื่นมากันหมดแล้วอะ อายนิดๆ
แต่มันก็ไม่เลทมากนะ แค่ยี่สิบนาทีเอง

เราไปเจอไกด์กับหัวหน้าทัวร์ ชื่อ คุณแหม่ม กับ คุณปุ๊ก
(คุณแหม่มซึ่งเป็นไกด์นั้น มีรูปร่างท้วมและเสียงใหญ่แบบน่ากลัวนิดๆ
ส่วนคุณปุ๊กซึ่งเป็นหัวหน้าทัวร์นั้นไม่อ้วนไม่ผอม แต่เสียงเล็กแหลม
พูดช้าเหมือนคนเหนือเลย)

หลังจากทำการโหลดกระเป๋าไปแล้ว และแสกนอาวุธหลายด่าน
(เราไปกับสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ เป็นสายการบินสัญชาติอเมริกัน
แบบตรวจละเอียดมาก มีถามนู่นนี่นั่น ตรวจกระเป๋า ตรวจรองเท้าตรวจทุกอย่าง)

เราก็มาที่ดิวตี้ ฟรีจ้า แต่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพราะอะไร?
เพราะเดลต้าแอร์ไลน์ไม่ให้เอาของเหลวขึ้นเครื่อง
คือสายการบินอื่นเวลาซื้อของจะมีถุงซิปล็อคใส่ให้ แล้วเอาขึ้นเครื่องได้
แต่เดลต้าไม่ให้เด็ดขาด คือแม่เราอยากได้น้ำหอม
แต่ก็อดไปตามระเบียบจ้ะ...

เราก็ไปรอที่เกท และขึ้นเครื่องเวลา 05.30 น.
เครื่องออกจริงๆตอนเกือบ 7.30 น.
แต่เดลต้านี่ดีนะ แบบที่นั่งรู้สึกเหมือนกว้างกว่าสายการบินอื่น
มีจอส่วนตัวให้เล่น มีเพลง มีหนัง มีเกม โอเค สบายดี
สักพักพี่แอร์โฮสเตสก็แจกอาหารเช้า
เมนูที่ให้เลือกมี ออมเลต กับ บะหมี่ไก่ (เป็นบะหมี่ผัดแห้ง)
เราเลือกออมเล็ต เพราะเราไม่หิวเลย #ปกติกินข้าวเช้าตอนเก้าโมงอะ 

หลังจากกินเสร็จก็หลับสนิท ตื่นมาอีกทีสิบโมงกว่า
แอร์แจกอาหารอีกแล้วจ้า เป็นขนมปังไส้แฮมร้อนๆ
ฟังดูเหมือนอร่อย แต่ไม่อร่อยเท่าไร แต่ก็กินๆไป 5555

ในที่สุดเราก็ถึงญี่ปุ่นที่เวลา 12.30 น. (บินประมาณ 5 ชม.) 
ที่สนามบินนาริตะ คนเยอะพอสมควร โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่จะเข้าญี่ปุ่น
ก็มีแสกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูป ในพาสสปอร์ตระบุว่าเราอยู่ได้ 15 วัน
ถ้านานกว่านั้นอาจจะโดนจับได้ เหมือนเป็นระบบรักษาความปลอดภัย
แทนการทำวีซ่าที่เพิ่งยกเลิกไป

ตอนที่เพิ่งลงจากเครื่องฝนตกด้วย ท้องฟ้าครึ้มเชียว
อุณหภูมิประมาณ 10 องศา หนาวง่ะ


ซากุระต้นแรกที่ได้เห็นที่ญี่ปุ่น

หลังจากรับสัมภาระมาแล้ว เราก็ขึ้นรถทัวร์ของสนามบิน
ไปยัง อิออนมอลล์
(รูปไหนที่ไม่มีเครดิตแสดงว่าเรายืมรูปมานะคะ)



อิออนมอลล์อารมณ์เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
มีร้านเสื้อผ้านิดๆหน่อยๆ เดินเข้าไปลึกพอสมควรถึงจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต
มีร้าน 100 เยนด้วย ของเยอะเหมือนกัน แต่เวลาน้อย
เลยได้แต่ขนมมา ได้แก่
- คิทแคทชาเขียว คิทแคทดาร์คช็อค
- ช็อกโกแลต
- ป็อกกี้
- ชา กาแฟ โกโก้
- ซุปข้าวโพด
- ชุดทำซูชิสำหรับเด็ก
-- พี่เราซื้อไปฝากลูกหัวหน้าที่ทำงาน
เป็นต้น

หลังจากช็อปได้พอสมควรแล้ว เราก็เข้าเช็คอินที่โรงแรม
รวมทั้งกินข้าวเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม

โรงแรมชื่อ Narita Excel Hotel Tokyu
http://www.narita-e.tokyuhotels.co.jp/ja/

อาหารในห้องอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์
มีพาสต้า กราแตง เสต็ก พิซซ่า ไส้กรอก ซุปมิโสะ
ข้าวต้ม ข้าวผัด ข้าวแกงกะหรี่ บะหมี่เย็น
ของหวานมีพุดดิ้งสตรอว์เบอร์รี่ เค้กชาเขียว และผลไม้
 

หลังจากนั้นเราก็เข้าห้องพัก เรานอนกับพี่สาวห้องนึง
พ่อแม่เรานอนอีกห้องนึงติดกัน ห้องใหญ่มาก
มีเตียงควีนไซส์สองเตียง ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ทีวี
โต๊ะเครื่องแป้งและโซฟายาว จริงๆห้องนี้นอนได้ 5-6 คนเลยนะ
   
อาบน้ำเสร็จเราก็เล่น Wi-fi บนห้อง
แล้วก็หลับสนิท


ติดตามต่อคห. 2 ค่าาา
แก้ไขล่าสุด 12 พ.ค. 57 23:28 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย jinnynr

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | `4U1D3DY* | 12 พ.ค. 57 16:48 น.

เข้ามาติดตาม 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | jinnynr | 12 พ.ค. 57 19:01 น.

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2557
06.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

วันที่สองของการเดินทาง...

ทางโรงแรมมีมอร์นิ่งคอลล์มาปลุก #ง่วงมาก ลืมตาไม่ขึ้นเลย
ตื่นแล้วก็ไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารเหมือนเดิม
เช้านี้มี ออมเลต ไส้กรอก แฮม ซีเรียล แพนเค้ก มาเป็นเมนูอาหารเช้า
แต่พวกผลไม้ มิโสะ ข้าวแกงกะหรี่ยังอยู่เหมือนเดิม


วิวจากห้องอาหาร

แล้วเราก็ขึ้นรถไป สวนสันติภาพเฮวะพาร์ค





ที่นี่บรรยากาศสงบดีมากสมชื่อสวนสันติภาพ
มีซากุระให้เห็นประปราย


ฮี่ฮี่ หน้าสดจ้าา


ค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว ลมแรง

แล้วเราก็ไปอุทยานฮาโกเน่กัน

ไปถึงไปเจอคิตตี้ด้วย แอร้ยยย น่ารักอ้ะ 


แล้วเราก็ไปกินอาหารกัน อร่อยมาก #อร่อยทุกที่แหละ 
เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน มีราเมน ข้าวแกงกะหรี่ พาสต้า ไก่ทอด มันบด ซูชิ
ขนมมีพุดดิ้งชาเขียวดึ๋งๆ
อร่อยดี

แล้วเราก็ไปนั่งกระเช้าไฟฟ้าเพื่อไปล่องเรือที่ทะเลสาบอาชิ


นั่งกระเช้าประมาณ 20 นาที
ก็ไปถึงท่าขึ้นเรือ เป็นเรือยอร์ชลำใหญ่ขึ้นได้หลายร้อยคน
แต่ทว่า...
จนท.ประกาศว่า เหมือนจะมีพายุเข้า เลยให้รวมการล่องเรือสองเที่ยว มาเป็นเที่ยวเดียว  ตอนนั้นคิดเลยว่าเรือจะล่มไหม 5555



วิวขณะล่องเรือ ลมแรงมาก หนาวระดับสิบ แทบแข็งตาย 
ใช้เวลาล่องเรือครึ่งชม.


หลังจากล่องเรือเสร็จ ฝนตกและพายุเข้าจริงๆ
พยากรณ์อากาศที่นู่นแม่นมาก บอกฝนตกก็ตก พายุมาก็มาจริงๆ

สถานที่สุดท้ายของวันนี้ ช็อปปิ้งที่ โกเทมบะ เอ้าท์เล็ท
เป็นสถานที่ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาถูกมากมาย
กุชชี่ ราฟลอเรน โปโล อดิดาส ไนกี้ ฮัช พัพพี่ และอื่นๆอีกเยอะมากกกกก 





ถ้าเสร็จแล้วเราก็เข้าโรงแรมกัน
บอกเลยว่าชอบโรงแรมนี้สุด เลิฟๆ 

ชื่อโรงแรม  Fuji Mihana Hotel


มื้อเย็นเราเป็นบุฟเฟ่ต์อีกเหมือนเดิม แต่มีขาปูยักษ์ด้วย
อร่อยนะ เนื้อเยอะมาก อิ่มเลยย

ห้องพักโรงแรมนี้เป็นแบบนอนพื้นนะคะ แบบปูฟูกไว้ที่พื้น
โรงแรมนี้่น่ารักตรงที่เวลากินอาหารเย็น
เค้าจะให้เราใส่ยูกาตะลงมา บรรยากาศน่ารักมุ้งมิ้งเลย


หน้าสดมากจ้า หน้าพร้อมนอนมาก 55555

แล้วโรงแรมนี้เราได้เจอหนุ่มหล่อด้วย อุอิ
แต่ไม่มีรูปนะ ตะลึงอยู่ #ไม่ใช่ละ
เราเป็นกุลสตรี จะแอบถ่ายผู้ชาย ไม่ดีๆ
 

ขอเม้าท์นิดนึง แบบเราเห็นอะ เค้ามองเราอะ
คือเรามองเค้าก่อน พอเค้ามองมาเราก็หลบตาอะ
เหมือนเค้าก็มองเราด้วยนะ มองแบบยิ้มๆอะ
ไม่ได้คิดไปเองนะ 

จริงๆเรามีเรื่องน่าอายด้วย แบบเกิดต่อหน้าฮีเลย

คือที่โรงแรมนี้ตรงถาดอาหารที่ให้เราตักจะมีชื่ออาหารอยู่
ที่อื่นจะเป็นภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่น
แต่ที่นี่เป็นภาษาไทย แล้วแบบ เขียนตลกมากก
มันมีผัดถั่วงอก ภาษาอังกฤษเขียนว่า sprout
ภาษาไทยดันเขียนว่า ต้นกล้า
#ขำจนปวดท้อง
แล้วเราหันไปจะขำกับพี่ ปรากฏว่า...

พี่เราหาย กลายเป็นโกโบริซัง (นามสมมติ) 

#สตั้นท์สิบวิ

ฮีคงงงอะ ว่าแบบเด็กนี่ขำอะไร พูดกับใคร???
#อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

แล้วเราก็รีบเดินไปที่อื่นทันที 5555

หลังจากนั้นเราก็ไปดูของในมินิมาร์ทเล็กๆในโรงแรม
เราเห็นโกโบริซังยิ้มๆอยู่ในลิฟท์ แบบ มองหน้าเราด้วย
แล้วประตูลิฟท์ก็ปิดลง

เราทำหน้าไม่ถูกเลย 5555

แล้วเราก็ขึ้นห้องพักไปนอนแบบฝันดี 5555

#ปล. โกโบริซังน่าจะอายุไม่เกิน 23
ปล.2 ตอนฮีใส่ยูกาตะ หล่อเว่อร์ #กรี๊ดดด
ปล.3 ใครจะไปรู้ว่าตอนเช้าจะมีเรื่องน่าอายเกิดขึ้นอีกรอบ
และต่อหน้าต่อตาโกโบริซังอีกแล้วว #เวรกรรม

วันนี้จบลงแค่นี้นะคะ ไว้ติดตามต่ออีกสามวันถัดจากนี้นะคะ

เรื่องราวน่าอายต่อหน้าโกโบริซังจะเป็นเรื่องอะไร?
และมนุษย์หน้าเทาคือใคร?
สามวันต่อจากนี้จะโหด มันส์ ฮา กว่าสองวันแรกแน่นอน
คอยติดตามกันด้วยนะค้าาา

แก้ไขล่าสุด 12 พ.ค. 57 23:30 | ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Watanabe_Nanaho | 12 พ.ค. 57 20:26 น.

แปะๆๆ จะไป ญป เหมือนกัน ^^

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | สวิตช์ชี้ | 12 พ.ค. 57 20:34 น.

ติดตามนะะะค่าาาา 

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | -เฟิ่งหวง | 12 พ.ค. 57 20:36 น.

จขกท.ไปเที่ยวที่ไหนนของญป อ่าาา
#วิวสวยมากกกก

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | CoFFA | 12 พ.ค. 57 21:12 น.

จขกท.ใส่ชุดยูกาตะน่ารักอ่า  เหมือนสาวญี่ปุ่นเลยย   รอตอนต่อไปน้า
ป.ล. หนุ่มหล่อคนนั้นอาจชอบจขกท.ก็เป็นได้ แบบ รักแรกพบไรงี้ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | -VivaLaVida. | 12 พ.ค. 57 22:01 น.

มารอต่อค่าา อีกสองปีแม่มีเพลนจะไปญี่ปุ่นเหมือนกัน 

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | jinnynr | 12 พ.ค. 57 22:09 น.

-$'Unique.
ทั้งหมดที่ไปอยู่โตเกียวแทบทั้งหมดเลยจ้าา
ไม่ได้ออกแถบโอซาก้าเลยย

CoFFA
เขินเลยย ขอบคุณค่า แอบปลอมตัวเป็นสาวญี่ปุ่นสักวัน 
เราขอเรียกแทนหนุ่มคนนั้นว่า โกโบริซัง นะคะ 5555
โกโบริซังมองยิ้มๆหลังจากเราทำโก๊ะใส่
เลยไม่แน่ใจว่ายิ้มแบบขำเรารึเปล่า


***มีอัพเพิ่มนิดหน่อยอยู่ คห.2 น้าาา
ใครยังไม่ได้อ่านเหตุการณ์โก๊ะเรื่องแรกของเรา
อ่านก่อนน้าาา เดี๋ยวพลาดดด 5555

แก้ไขล่าสุด 19 พ.ค. 57 17:31 | ไอพี: ไม่แสดง

#9 | `(-.Drake.conan- | 13 พ.ค. 57 10:25 น.

อยากไปมั่งงงงงงงงง T^T

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | `ควอนดารัตน์ | 13 พ.ค. 57 16:14 น.

โรงแรมใช้Google translateชัวร์55555555 ต่อเลยๆชอบโกโบริ

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | `ซิลเวอร์:32 | 14 พ.ค. 57 12:19 น.

เจ้าของกระทู้น่ารัก 

ปล. อยาไปบ้างจัง 

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | Harajuking | 15 พ.ค. 57 22:22 น.

อยากไปที่สุด > <

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | jinnynr | 19 พ.ค. 57 12:43 น.

คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ นั่งรอฉันอัพกระทู้... 
*ร้องเป็นเพลงจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น*

เราหายไปนานเลย บอกเลยว่า ขึ้นม.6การบ้านเยอะมาก เรียนหนักด้วย
ถ้าหายไปนานก็ขอโทษทุกคนที่รออ่านด้วยนะคะ 

มาต่อกันเลยยยยย


วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2557
06.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

วันที่สามของการเดินทาง...

หลังจากตื่นมาอาบน้ำทำธุระส่วนตัวแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเช้า
กินที่เดิมที่เมื่อคืนกินนั่นแหละ แต่อาหารจะเน้นไปทางขนมปัง แฮม ไส้กรอกมากกว่า

ตอนนั้นเรากำลังคีบปลาแซลมอนอยู่ มันเป็นแบบแซลมอนย่างชิ้นเล็กๆ
เราคีบมาชิ้นนึงว่าจะลองกิน พี่สาวเราก็มาชวนไปตักซุปกัน เราก็เดินไปกับพี่
เป้าหมายคือเล็งซุปข้าวโพดไว้ (ซุปข้าวโพดของญี่ปุ่นจะอร่อยมากกกกก กลิ่นจะเป็นนมๆ)

พี่: จินนี่ ไม่มีซุปข้าวโพดอะ มีแต่มิโสะกับซุปฟักทอง
จินนี่: อ้าว เสียใจอะ   งั้นไปเอานมมากินก็ได้

ทีนี้ เรากับพี่เลยจะไปหยิบแก้วนม เราเลยถือจานที่มีปลาแซลมอนไว้มือซ้าย
แล้วมือขวาจะหยิบแก้วนม

ลองดูรูปภาพประกอบ... #รูปมันกากมาก อย่าไปใส่ใจ 55555



**พื้นที่สีน้ำตาล คือ เคาน์เตอร์ที่วางแก้ว
ลักษณะการวางคือ บนโต๊ะเคาน์เตอร์ จะมีถาดชั้นล่างวางอยู่
บนถาดชั้นล่างมีแก้วเปล่า (รูปสีชมพู)
แล้วก็วางถาดชั้นบนซ้อนไปอีกที ซึ่งเดิม ถาดชั้นบนเคยมีแก้วเปล่าอยู่
แต่คาดว่าคงหยิบกันไปหมดแล้ว
ส่วนที่เราจะยื่นมือขวาเข้าไปหยิบแก้ว คือตรงลูกศรสีแดง**

ทีนี้ ประเด็นแรกคือ พี่เราหยิบได้ผ่านฉลุย ส่วนเราด้วยความที่แก้วมันอยู่ลึกเข้าไป
เราก็เลยเอียงตัวนิดนึง เพื่อหยิบแก้วที่อยู่ข้างใน
ทำให้มือซ้ายที่ถือจานแซลมอนเอียงตามโดยไม่รู้ตัว
ผลคือ...

แปะ!

ปลาแซลมอนที่อยู่ในจานตกลงไปในกองขนมปังที่อยู่ข้างๆที่วางแก้ว
ตกลงไปแบบกลางกองขนมปังพอดี 

ประเด็นที่สอง คือ...
เราส่งเสียงอุทานออกไปไม่เบานัก

โอ๊ะ!!! 

ประเด็นที่สาม คือ...
เรารู้สึกได้ว่าคนข้างๆหันมามอง พอเราหันไป เราก็ต้อง #สตั้นท์สิบวิ


คนข้างๆคือ โกโบริซัง 


ซึ่งกำลังถือทัพพีตักซุปมิโสะ แล้วกลั้นหัวเราะ 

#อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

เรารีบคว้าแก้ว เดินไปเทนม แล้วรีบเดินกลับโต๊ะทันที 5555

ระหว่างที่กินอยู่ โกโบริซังเดินผ่านโต๊ะเรา แต่เราไม่กล้ามองเลย 

---เรื่องราวของโกโบริซังก็จบลงเท่านี้ หลังจากเราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
เราก็ไม่เจอฮีอีกเลย--- 
#ควรจะย้ายเรื่องนี้ไปบอร์ดความรักมั้ย 555555

แต่การไปเที่ยวยังคงดำเนินต่อไป...
กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ยังพอมีเวลาอีก 40 นาที ให้ได้ถ่ายรูปเล่น
ก่อนจะเช็คเอ้าท์แล้วไปเที่ยวที่ต่อไป...

โรงแรมนี้ประทับใจตรงที่ว่า วิวสวยมากกกก
หน้าโรงแรมเป็นทะเลสาบ หลังโรงแรมเห็นภูเขาไฟฟูจิ

เมื่อคืนมันมืด มองอะไรไม่เห็น แต่พอตอนเช้า ความจริงจึงปรากฏ



ไกด์บอกว่าแล้วแต่ดวงว่าใครจะได้ห้องโซนไหน
ถ้าได้โซนหน้า จะเห็นทะเลสาบ
ถ้าได้โซนหลัง จะเห็นฟูจิ #ทุกคนตาลุกวาวเมื่อได้ยินประโยคนี้ 

เราโชคดีที่ได้อยู่ด้านหลังโรงแรม ตื่นมาคืออึ้ง แบบ โอ้ - มาย - ก็อด!!!

รูปที่เราถ่ายจากหลังโรงแรม
ขาเราเล็กเกินไป 55555



หน้าโรงแรมบ้าง




(ขอเซ็นเซอร์คุณแม่นะคะ แม่ไม่อยากออกสื่อ 55555)

หลังจากถ่ายรูปกันจนถึงเวลาออกเดินทาง เราก็ขึ้นรถไปยังสถานที่แรกของวันนี้
ฟูจิ โอชิโนะ เบอร์รี่แลนด์

นั่งรถแค่สิบนาทีจากโรงแรม เป็นไร่สตรอว์เบอร์รี่เล็กๆ
ที่จะปลูกตามฤดูกาล ถ้าเป็นช่วงนี้จะเปลี่ยนเป็นปลูกบลูเบอร์รี่แทน
ลักษณะจะเป็นโรงเรือนมีหลังคา ข้างในจะอุ่นมาก เพราะต้องควบคุมอุณหภูมิการปลูก
ถ้าหนาวเกินไป สตรอว์เบอร์รี่ก็คงโตไม่พอที่จะเก็บ



สังเกตว่าสตรอว์เบอร์รี่ที่นี่ลูกใหญ่มากกก
มันจะฉ่ำๆ หวานๆ ไม่มีเปรี้ยวเลย

เจ้าของที่นี่เค้าก็เตรียมกรรไกร ถาดใส่สตรอว์เบอร์รี่
และนมข้น
ไว้ให้ ไม่จิ้มนมข้นก็อร่อยอยู่แล้ว
แต่จิ้มอร่อยกว่านะ เราว่า นมข้นบ้านเค้าเป็นนมสด
ไม่ใช่นมเทียม จุดนี้ก็ฟินกันไป พุงกางเลย



จะบอกว่าทุกคนตัดกันรวดเร็วมาก เค้าให้พื้นที่ทัวร์เราสองแถวในการตัดกิน
แต่สิบห้านาที สตรอว์เบอรร์รี่สองแถวเกลี้ยงงงง
แบบเหมือนพายุลง 555555 ท่าจะหิวกันมาก 

ลืมบอกว่าเค้าเปิดวิทยุให้สตรอว์เบอร์รี่ฟังด้วย 
และเค้าไม่ให้ตัดออกไปกินข้างนอก
ที่มีขายคือผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น แยม สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง พวกนนี้ถึงจะเอาออกไปได้

หลังจากนั้นเราก็ไปสถานที่ที่สองของวันนี้
หมู่บ้านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์โอชิโนะฮัคไค



ตรงนี้นั่งรถไปห้านาทีเองมั้ง
แบบยังไม่ทันย่อยสตรอเบอร์รี่เลย 
ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไร จะมีที่ขายของฝาก
เราก็ได้ติดไม้ติดมือมาฝากเพื่อนๆเล็กน้อย

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิที่ว่า เราเห็นชาวญี่ปุ่นรองน้ำใส่ขวด
กลับไปกินด้วย เหมือนกินแล้วจะโชคดีอะไรทำนองนี้
แต่ที่นี่น่ากลัวนิดนึง คือรอบๆมันจะมีบ่อน้ำหลายบ่อ
แต่อย่าชะโงกหรือเล่นกันนะ คุณอาจจะตกลงไปได้
ที่น่ากลัวคือ แต่ละบ่อ ลึกประมาณ 8 เมตร
ย้ำว่า 8 เมตร ตกลงไปคือตาย 



ที่ใส่ผ้าปิดปากไม่ได้เป็นหวัดหรืออะไรนะ
แต่ลมแรง จมูกชา แดงเถือก เลยต้องซื้อมาใส่
อันนี้ซื้อที่โรงแรมเมื่อคืน ลายคิตตี้ด้วย 5555

จากนั้นเราก้ไปกินข้าวกลางวันกัน

รถทัวร์เราคือในวงกลมสีแดง ส่วนที่ที่เราไปกินข้าว
คือสี่เหลี่ยมสีม่วง มื้อนี้เป็นมื้อแรกที่ไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์
เป็นแบบปิ้งย่าง มีซีฟู้ดจำพวกกุ้ง ปลาหมึก
และหอยแมลงผู้นิวซีแลนด์ รวมทั้งหมูสไลด์เป็นแผ่นๆ

พุงกางเหมือนเดิม...

หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็ไปสถานที่ต่อไป
ภูเขาไฟฟูจิ

ที่ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น มีหลายชั้น
ไกด์บอกว่ามีบางทัวร์ได้ขึ้นถึงชั้นที่ 5
แต่วันที่ไปอากาศไม่ค่อยดี หนาวมาก คิดว่าติดลบ
เพราะยังมีหิมะให้เห็นอยู่ เลยขึ้นได้แค่ชั้นแรก
ที่ระดับความสูง 1,291 เมตร จากระดับน้ำทะเล




จริงๆรถจะขับขึ้นไปได้แค่ชั้นแรก
ส่วนถ้าจะขึ้นไปชั้นถัดไปต้องเดินไปเองค่ะ 
ซึ่งเราไม่ไหว 5555 เลยกลับมากบดานที่รถดีกว่า
แต่ทุกคนก็ไม่มีใครขึ้นไปนะ สงสัยไม่ไหวเหมือนกัน

และสถานที่สุดท้ายในวันนี้ก็คือ...
ชินจูกุ

เรามาถึงที่นี่ตั้งแต่บ่ายสามครึ่ง ไกด์ให้เวลาถึงหกโมงครึ่ง
คือสามชั่วโมงเต็ม...
เดินกันปวดขาเลยทีเดียว 55555

ที่นี่เราจะได้เห็นคนหลายรูปแบบ หลายวัย
คนน่ารักแบบดาราญี่ปุ่นหลายคน คนหล่อก็มีบ้าง 
คนที่แต่งคอสเพลย์แล้วเดินกลางชินจูกุกันสองคน
แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นคือจะเป็นพนักงานออฟฟิศ

ที่นี่มีร้านรวงเยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้หญิงอย่างเราๆ
คือ ร้านมัตสึคิโยะ ใช่แล้ว มันคือร้านเครื่องสำอางนี่เอง 555

ร้านนี้สังเกตง่ายๆคือป้ายจะสีเหลืองๆชัดเจน
ชื่อเต็มๆ คือ มัตสึโมโต้ คิโยชิ เรียกย่อๆว่า มัตสึคิโยะ
มีหลายที่มาก เดินไปมุมไหนก็เจอ แต่ร้านที่ใหญ่จริงๆ
จะมีสามชั้น เดินเข้าไป คือลายตามาก คสอ.สามล้านแปดแสน
แล้วก็มีทางลงไปชั้นใต้ดิน รวมถึงขึ้นบันไดไป
เป็นชั้นลอยอีกชั้นนึงด้วย

เราซื้อมาน้อยมากเพราะที่บ้านไม่มีใครใช้ของญี่ปุ่น
ไอเท็มฮิตของคนไทยที่ต้องไปเหมา เช่น
ฮาดะลาโบะ (เราใช้แล้วเฉยๆอะ ไม่เกิดอะไรขึ้น
เลยไม่ซื้อ)
ชิเซโด้ เพอร์เฟควิป (เราซื้อแล้วจากห้างอิออนวันแรกเลย)
มาส์กเต้าหู้ (อันนี้ซื้อ แต่เดินหาหลายร้านมากกว่าจะเจอ)
ยังมีพวก โคเซ่ เอสเคทู ซึ่งมันแพงเกินดว่าที่เราจะใช้
หรือ กันแดดแอนเนสซ่า (กันแดดที่บ้านเต็มเลย
ใช้ให้หมดก่อนดีกว่า)
ดีเอชซี เราไม่ได้กิน แต่เห็นเยอะมากกก
ถ้าใครกินแนะนำให้มาเหมาที่นี่
และอื่นๆ

เรารีวิวมาส์กเต้าหู้กับเพอร์เฟควิปไว้ ในทู้นี้
ตามไปอ่านได้นะจ๊ะ
http://sz4m.com/b3964991

ส่วนร้านที่เป็นที่ยอดนิยมของผู้ชายก็มีนะ แบบตรงข้ามกัน
มีร้านเซ็ก.ซ์ช็อป  ให้ผญ.เข้าร้านคสอ.
ส่วนผช.ก็... ตามนั้น 55555
เห็นมีขายชุดพยาบาลด้วย 

หลังจากเดินวนไปวนมา เราก็ได้รองเท้ามาหนึ่งคู่ จำชื่อร้านไม่ได้
ได้เสื้อหนาวมาหนึ่งตัว จากยูนิโคล่ เดี๋ยวไปเรื่อยๆจะมีรูปให้ดู

เข้าร้านร้อยเยนซื้อของจุกจิกนิดหน่อย
ก่อนจะไปกินข้าวเย็น ที่ชั้น 7 ตึกในชินจูกุนั่นแหละ

เป็นชาบู อร่อยเว่อร์ เอ็นจอยอีตติ้งกันไป 5555
มีชาบูหมูกับเนื้อ ไกด์จะถามเราก่อนว่ากินเนื้อมั้ย
เวลากินเค้าจะมีเนื้อกับหมูใส่ถาดมาเสิร์ฟ

เราไปตักผักเองว่าจะเอาผักอะไร มีข้าวแกงกะหรี่
ที่อร่อยสุดเท่าที่กินมาในญี่ปุ่น มีอุด้งกับบะหมี่เหลือง

ของหวานเป็นไอติม ไอติมแต่ละรส แปลกๆทั้งนั้น
รสเกลือผสมนม (อันนี้อร่อยนะ มันเหมือนไอติมวานิลลา ไม่เค็มนะ อย่าตกใจ)
รสช็อกโกแสตผสมรากโสม (เหมือนจะอร่อย
แต่ถ้ากินเจอโสมมันจะขมมาก)
รสมะเขือเทศ (อันนี้รสแบบขั้นหนักอะ
บอกเลยว่าแย่มาก จบ)
รส wormwood (ไม่รู้ว่าคืออะไร แม่บอก
รสหนอนไม้ไผ่ปะ ถึงกับสำลัก คือมันกลิ่นแบบผักๆ
เหมือนมันจะเป็นสมุนไพรชนิดนึงที่เอาไว้ทำยานอนหลับ
มิน่า กินแล้วมึนๆ 55555)

หลังจากนั้น เราก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน โรงแรมนี้ชื่อว่า
Tokyo Sunshine City Prince Hotel

โรงแรมนี้มีข้อเสียคือ ไม่มี Wi-fi ให้เล่นในห้อง
ถ้าจะเล่น ต้องเอากุญแจห้องมาขอพาสเวิร์ดที่รีเซปชั่น
ถึงจะเล่นได้ ซึ่งเราขี้เกียจ เลยอาบน้ำนอนดีกว่า

วันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ 

**ไว้ว่างๆจะมาอัพน้าา เปิดเทอมแล้ว การบ้านเยอะมากก
ไม่รู้จะได้อัพมั้ย  แต่จะพยายามหาเวลามาอัพน้าาา**

แก้ไขล่าสุด 19 พ.ค. 57 17:33 | ไอพี: ไม่แสดง

#14 | -vix;(+812) | 21 พ.ค. 57 21:21 น.

อัพเลย รอติดตามนะค่า 

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | asdfjkl;; | 25 พ.ค. 57 15:35 น.

รอติดตามค่าาาา
จขกท น่ารักกก

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | jinnynr | 1 มิ.ย. 57 21:12 น.

ยังมีคนอยากอ่านอยู่ไหมเอ่ย 
ขอโทษจริงๆนะคะ 
รอกันนานเลย เหตุผลตามนี้นะคะ


`69 ขอบคุณนะค้าาา จะอัพทู้แล้วแหละ 

asdfjkl;; เขินเลยยยย ขอบคุณค่าาา 




มาแล้วววววว 

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557
เวลา 7.30 น.

วันนี้เราจะไปย้อนวัยกันนน แน่นอนว่ามาโตเกียวแล้ว
เราจะพลาดสถานที่นี้ไปได้อย่างไร

โตเกียวดิสนีย์แลนด์

เรามีเวลาตั้งแต่เช้ายันดึกอยู่ที่นี่ทั้งวันเลย เรื่องราวจะค่อนข้างเยอะนิดนึง

โตเกียวดิสนีย์แลนด์มีพื้นที่ใหญ่มากกกกกกกก
แบบเดินทั้งวันยังแทบไม่รอบ
เพราะเค้าแบ่งเป็น ดิสนีย์แลนด์ กับดิสนีย์ซี
- ดิสนีย์แลนด์คือดซนที่เป็นสวนสนุก มีเคร่องเล่น
- ดิสนีย์ซีจะคล้ายๆสวนน้ำแบบมีระดับ 5555 แต่เราไม่ได้ไป 

คือถ้าจะไปดิสนีย์ซี ต้องนั่งรถไฟต่อไปอีกนิดนึง
แต่เราคิดว่าดิสนีย์แลนด์ที่เดียว ก็เดินกันน่องโป่งละนะ 55555

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...

ตอนที่ลงจากรถก็ว่าตกใจละนะ คือคนเยอะมากกกกกกกกก
ย้ำว่าเยอะจริงๆ นึกว่าให้เข้าฟรี 5555 
ตอนต่อแถวนี่ตกใจกว่า รออยู่ประมาณ 20 กว่านาที
ไกด์บอกว่านี่เรายังดีที่ทางทัวร์ซื้อบัตรไว้ให้แล้ว
ถ้ายังไม่ซื้อบัตรคงรออีกเป็นชั่วโมง คนเป็นพันๆยืนออกันอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า 

อะไรจะขนาดนั้นนน เราคิดว่าคงเป็นเพราะมาวันอาทิตย์ เป็นวันครอบครัวด้วยมั้ง
และไก์ก็บอกว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้ายของนักเรียนญี่ปุ่น
พรุ่งนี้ก็จะเปิดเรียนกันแล้ว เลยเที่ยวทิ้งทวนซะหน่อย

**บอกเลยว่ารูปเยอะมากกกก**
วันนี้เราจะเล่าเรื่องด้วยภาพนะคะ รายละเอียดเดี่ยวสรุปอีกที


บัตรเข้าดิสนีย์นะคะ ราคาตามนั้น เป็นราคาผู้ใหญ่


โรงแรมดิสนีย์ อยากพักมาก ข้างในน่ารักมาก (คนอื่นบอกมา)


นี่แหละ รถไฟที่บอก ว่าถ้าจะไปดิสนีย์ซีต้องนั่งรถไฟนี้ไป
เห็นบอกว่าข้างในเป็นมิคกี้เม้าส์ น่ารักมาก 




ที่เห็นนี่คนทั้งนั้นเลย ในวงสีชมพูคือคนยืนรอ 
เครื่องเล่นนี้ชื่อว่า It's small world
เป็นเรื่อนั่งชมตุ๊กตา น่ารักดี แสงสีอลังการ




เบลอไปหน่อยเพราะเรือแล่นตลอดเวลา มือสั่น 




อันนี้เป็นส่วนที่ชื่อว่า Toon Town คือเป็นหมู่บ้านของตัวการ์ตูนทั้งหมด
มิคกี้ มินนี่ กูฟฟี่ โดนัลด์ เดซี่ แถมยังมีร้านซ่อมรถ สถานีดับเพลิง
น่ารักมาก คนเยอะมาก เลยไม่ได้ชมภายใน 



เครื่องเล่นนี้คือ Star jet เป็นแบบจรวดหมุนๆอะ มีคันโยกปรับสูงต่ำได้
บอกไม่ถูก ตอนเล่นอายนะ มีแต่เด็ก เราก็แก่ๆแล้ว 555555



อาหารกลางวัน น่ารักชิมิล่าาา กรี๊ดด 
เป็นเบอร์เกอร์เนื้อไข่ดาว มาพร้อมเฟร้นช์ฟรายด์ และโค้ก
ความรู้สึกคืออร่อยมาก 55555 อาจจะเหนื่อยมั้ง
ราคาจำไม่ได้เพราะพี่กับพ่อไปซื้อ แต่จำได้ว่าแพงเอาการ


เดินย่อยอาหาร พอดีเป็นช่วงที่กำลังจะมีขบวนพาเหรดพอดี
เลยมีวงโยมาเล่นดนตรี เราก็แอบแชะภาพมาฝาก


อลิซ อิน วอนเดอร์แลนด์ นางน่ารักมากอะ วิ่งไปรอบๆ
เห็นนางวิ่งผ่าน เลยแชะภาพมาด้วย 



จู่ๆจากแดดเปรี้ยง ฝนก็เทกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา
ประมาณชั่วโมงเศษๆ เลยเกิดความโกลาหลเล็กน้อย
เราก็วิ่งวุ่นหาที่หลบ ดีที่เราเอาเสื้อกันฝนไปเผื่อ





ฟ้าหลังฝน กลับมาสดใสอีกครั้ง
ได้เวลาเดินชมต่อ


อันนี้แถม น้องน่ารักมากอะ อยากอุ้มกลับบ้าน 


ไปชมปราสาทดิสนีย์มา ข้างในจะเป็นเรื่องของซินเดอเรลล่า
ก็ไม่ค่อยมีอะไร แต่ตอนนั้นเย็นแล้ว ก็เลยไปหลบลมหนาว  ข้างล่างขายคริสตัลที่เค้าทำสดๆเลย มีทั้งของโชว์
เครื่องประดับพวกสร้อย แหวน ต่างหูก็มี
ราคาก็... ซื้อไม่ลงเลย


ปราสาทดิสนีย์ยามค่ำคืน ของจริงสวยมากอะ






อันนี้เป็นไฮไลต์เลย หนาวแค่ไหนก็ทนรอดู
ดิสนีย์ ดรีมไลท์ อิเล็คทริค พาเหรด
เบลอหลายรูป เพราะหนาวมากกกก ตอนนั้นประมาณทุ่มครึ่ง
พาเหรดจบสองทุ่มครึ่ง
ตอนนั้นคือหนาวมาก คิดว่าอุณหภูมิติดลบ นึกว่าจะแข็งตายที่นั้นซะแล้วว 

รูปนี่คือคร่าวๆนะคะ จริงๆเฉพาะดิสนีย์แลนด์วันเดียว
สองร้อยกว่ารูป 

แต่เอามาลงหมดไม่ไหว เลยคัดมาเท่านี้

เพิ่มเติม
- ที่นี่เครื่องเล่นทุกชนิดมีเวลาบอกนะคะว่าถ้าจะเล่นต้องรอกี่นาที จะมีเจ้าหน้าที่มาปรับเวลาตลอดค่ะ และจะบอกว่า เครื่องเล่นทุกชนิดต้องรอค่ะ คือมีตั้งแต่ 15 นาที ไปจนถึง 215 นาที ก็เจอมาแล้ว  คือแบบ 215 นาทีมันสามชั่วโมงกว่าเลยนะ 

-แต่อย่าตกใจไป เครื่องเล่นที่คนรอเล่นเยอะมากๆเค้าจะมีระบบที่เรียกว่า Fast pass คือเราเอาบัตรเข้าดิสนีย์ของเราไปกรอกข้อมูล
แล้วสแกนบาร์โค้ดกับเครื่องที่อยู่หน้าเครื่องเล่น
แล้วพอถึงเวลา เราก็ค่อยกลับมาเล่นแบบไม่ต้องต่อแถว คือลัดคิวได้เลย ซึ่งคนญี่ปุ่นชอบทำมาก เนื่องจากรอสามชั่วโมงคงตายก่อน 

- มีเครื่องเล่นอยู่อย่างนึงที่จำแม่นมาก คือ เครื่องเล่นที่เป็นสโนว์ไวท์ แอดเวนเจอร์
ถ้าเป็นโรคหัวใจไม่แนะนำให้เล่นนะ เราหัวใจจะวาย
อารมณ์บ้านผีสิงมาก ซาวด์เอฟเฟ็คท์หลอนยิ่งกว่าแม่นาคพระขโนง
คือตอนไปต่อแถวนึกว่าแบบน่ารักฟรุ้งฟริ้งไง
ที่ไหนได้ น่ากลัวไปไหม เพิ่งเห็นป้ายเตือนภาษาอังกฤษ
ประมาณว่า ระวังเด็กๆของคุณอาจจะตกใจเพราะแม่มด
คือมันเป็นแบบรถรางเล็กๆ นั่งได้ 4 คน เราไปกับพี่
แล้วสองคนข้างหน้าเป็นคู่รักอายุประมาณ 23
2 คนนั้นเงียบกริบเลย เรากับพี่ก็ไม่กล้ากรี๊ด อายง่ะ 
ข้างในเป็นการผจญภัยของคนแคระ
แล้วแม่มดคือน่ากลัวขั้นสุดอะ ไม่น่าเสียเวลาต่อแถวเลย ใช้เวลาตั้ง 45 นาทีแน่ะ ขาแข็งเลย

- ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก แบบว่าคนเยอะขนาดนั้นยังสะอาดเลย ประทับใจมาก

- เราได้ซื้อเสื้อหนาวดิสนีย์มาด้วย ตัวละ 3900 เยน
คือตอนนั้นมันหนาวไง แล้วแม่ก็บอกว่าเอามั้ย มันน่ารักนะ
เป็นที่ระลึก เราบอกแม่ว่า มันแพงไปมั้ย 3000 เยนก็พันกว่าบาทเลยนะ
แม่ก็บอก จะเอามั้ย เรา เอาค่ะ 555555
คือมันน่ารักจริงๆนะ เดี๋ยวคงได้เห็นรูปชัดๆ

- อาหารเย็นไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่เป็นข้าวแกงกะหรี่ อร่อยนะ
#อร่อยหมดแหละ เรากินตอนบ่ายสามโมงอะ
พอดีฝนตก หาที่หลบฝน เลยกินรองท้อง พอกลับโรงแรม
เราก็ไปซื้อมาม่าจากแฟมมิลี่มาร์ทมากิน บอกเลยว่าอร่อยสุดๆ 5555555 #เอ็นจอยอีตติ้งไปไหม

- ที่นี่เราจะเจอเคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงคุณตาคุณยาย
ที่เห็นเยอะคือนักเรียน กับแบบครอบครัว

วันนี้ก็จบลงเพีบงเท่านี้ค่าาาาา
เดี๋ยวเหลือวันสุดท้่ายในญี่ปุ่นแล้ว เราจะมาอัพอีกนะคะ 
ติดตามกันด้วยนะคะ 

แก้ไขล่าสุด 2 มิ.ย. 57 17:00 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google