รีวิวหนัง The Fault in Our Stars ดาวบันดาล โดย หนังเก่าเคาะใหม่

2 ธ.ค. 58 19:57 น. / ดู 1,029 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
The Fault in Our Stars

8/10 หนังซึมสุข สุดโรแม๊นเศร้า

Romantic Drama Film
Directed by Josh Boone
    หากยังคิดว่าชีวิตตัวเองถึงทางตัน รับรองว่าหากได้ดูหนังเรื่องนี้ จะมองโลกต่างออกไปในคราวที่ยังไม่ได้ดู ส่วนใครที่ยังมองไม่เห็นเตรียมชิดชู้ไว้เยอะๆแล้วกัน

    หนังเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งสองคนคือเฮเชล เกรซและออกัสตัส ภายหลังที่เฮเชลได้เข้ากลุ่มสนับสนุนโปรแกรมทางสังคมของผู้ป่วย อาการซึมเศร้าก็เริ่มดีขึ้น และยิ่งได้สนิทสนมกับออกัสตัส หนุ่มผู้มองโลกสวยและความปรารถนาจะให้ทุกคนจดจำ ก็ยิ่งทำให้เฮเชลใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น พวกเขาเริ่มไปมาหาสู่ พูดคุยเรื่องส่วนตัว และบอกสิ่งที่ตัวเองชอบทำอย่างหนังสือสุดโปรด

    จนวันหนึ่งภายหลังที่พวกเขาแลกหนังสือกันอ่าน ออกัสตัสก็โทรไปแจ้งข่าวดีกับเฮเชลถึงเรื่องนักเขียนสุดโปรด และจดหมายตอบกลับจากพวกเขา เฮเชลจึงพยายามเขียนส่งไปอีกครั้ง และสุดท้ายเธอก็ได้จดหมายตอบกลับเชื้อเชิญให้มาเยือนอัมสเตอร์ดัม แต่ทว่าด้วยความเสี่ยงจากโรคและอาการป่วย ประกอบกับคำวินิจฉัยของแพทย์ มีโอกาสที่ความฝันของเธอจะไม่ได้เกิดขึ้น

   
    ใครยังไม่อ่านบทประพันธ์จากชื่อเรื่องเดียวกันของ John Green ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาเรื่องนี้ได้ผ่านเนื้อหาภาพยนตร์ หรือถ้าจะหาหนังสือมาอ่านเสริมทีหลังก็ไม่เป็นไร

    ดังนั้นจึงขอเริ่มต้นด้วยว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ปกติก็มีพล๊อตทีมีแก่นเช่นนี้บ้าง ก็คือผูกความตายเข้ากับคนใกล้ตาย โดยชักนำความคิดที่จี้หัวใจว่าทำไมต้องอยู่อย่างอมทุกข์ด้วยละ! ขณะที่เรื่องนี้ผูกเรื่องเข้ากับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ตามสถานะที่ไม่ควรเกิดขึ้น(The Fault)

    เพราะฉะนั้น เมื่อไม่มองในเชิงปัญหาวรรณกรรม หนังเรื่องนี้จึงมีต้นทุนความน่าสนใจอยู่ในตัวแล้ว ดั่งเช่นต้นทุนประเภทหนังดีหลายๆเรื่อง

    ขณะเดียวกันเมื่อกลับเข้าสู่โหมดหนัง ตัวละครหลักอย่างเฮเชลและออกัสตัสอย่างเช่นบทบาท และการเลือกนักแสดง ทำได้ดีโดยเฉพาะแอนเชล เอลกอร์ธ(ออกัสตัส) เช่น การกระทำ(Acting) ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าพัฒนาการของตัวละครของเฮเชลเกิดขึ้นจริงได้

    ประการต่อมา เราจะเห็นว่าท้องเรื่องซึ่งเน้นหนักไปทางดราม่ามากกว่าโรแมนติกซ์ มักจะมีแง่มุม ประเภทชี้จุด! โดนใจเชิงปัญหาชีวิตและทัศนคติ ซึ่งเนื้อหาของเรื่องนี้ก็ทำได้ดี ภายใต้ข้อจำกัดของหนัง ยิ่งเวลาดูจบก็มักจะได้แง่คิดดีๆผ่านเรื่องราวของพวกเขากลับมา

    ขณะที่ความโรแมนติกซ์ของเรื่องนี้ เป็นเพียงการนำเอาความสัมพันธ์ของคู่หนุ่มสาว(เฮเชล-ออกัสตัส)มาใช้ในการเดินเรื่อง แม้โทนเรื่องความรักดูจะไม่ค่อยอิน แต่เมื่อพิจารณาผสมกับบทบาทของตัวละครฝ่ายรุกอย่าง ออกัสตัส ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกว่า ไม่เสียดายน้ำตาที่เสียไป

    และสุดท้ายเพลงประกอบเพราะดี

มาเคาะเพิ่มเติมได้ที่นี้
http://nawacreativity.blogspot.com/
https://www.facebook.com/NawaCreativity/
ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุด 2 ธ.ค. 58 19:59 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 8

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | eveazazel | 14 ธ.ค. 58 18:22 น.

ดูแล้วร้องไห้ไม่หยุดเลยเรื่องนี้ เศร้าลื้มม

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google