สาว แพท วางแผน อยากมีลูกในอีก 2 ปีข้างหน้า

หลังจากสูญเสียคุณพ่อไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ และทำพิธีฝังศพตามหลักศาสนาอิสลามไปแล้วเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุดสาว "แพท - ณปภา ตันตระกูล" ก็เผยสภาพจิตใจของตัวเองว่า "คือแพทอ่ะเศร้ามา 2 อาทิตย์แล้ว คือมันหนักแล้วสำหรับเรา ทั้งเห็นที่คุณพ่อป่วยหนัก ใส่สายนู่นนี่นั่น คือเราหนักมาแล้ว แล้ววันงานทุกคนก็บอกว่าพยายามอย่าร้องไห้ คืออยากให้คุณพ่อหมดห่วงสักทีหนึ่ง แล้วแพทก็เลยรู้สึกว่าก็ใช่ วันที่คุณพ่ออยู่โรงพยาบาลคือแกเหนื่อยมาก แล้วแกหนักมากจริงๆ มันเป็นอะไรที่เราหนักมาก แล้วเราร้องไห้กันเยอะมาก เราก็เลยรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่สวย ทั้งทุกอย่างมันเป็นพิธีที่สวย เราจะต้องทำให้ท่านไปแบบมีความสุข แล้วก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วที่สุด แล้วเป็นวันรวมญาติที่ทุกคนมาเพื่อส่งท่านโดยเฉพาะเลยค่ะ มันเป็นอะไรที่ดีอ่ะ" แม้จะเคยมีคดีความกันมาก่อน แต่สาวคนนี้ก็ออกปากว่ายังรักคุณพ่อเหมือนเดิม "แพทก็รักเขาเหมือนเดิม และรักเขาเท่าเดิม เพราะว่าอย่างแรกเลยคือเราตัดไม่ขาดอ่ะ พ่อก็คือพ่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาก็คือพ่อเราค่ะ" ดาราสาวอารมณ์ดีพูดถึงอาการป่วยของคุณพ่อให้ฟังว่า "จริงๆ คุณพ่อเขาอ่ะเหมือนบอกเราว่าเขาป่วยกระเสาะกระแสะ เหมือนแค่เป็นความดัน เบาหวาน แต่จริงๆ แล้วแกเป็นมะเร็ง ซึ่งตัวแกก็ไม่รู้ เราก็ไม่รู้ เป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 แล้วก็ลามไปต่อมน้ำเหลือง ซึ่งใบประวัติก็ไม่มี คือแพทก็ไม่เข้าใจทุกอย่างเลยว่าแกได้หาหมออย่างที่แกบอกเราหรือเปล่า ที่แกมาเบิกหรืออะไรอย่างนี้ ก็คือเริ่มแรกเลยอ่ะ แกหมดสติ แล้วก็ตัวผอมมากน้ำหนักลงที 12 โล แล้วแกบ่นเรื่องกินข้าวไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ ก็เลยตัดสินใจจะพาไปหาหมอ พอเข้าโรงบาลคราวนี้มันหนักไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลำไส้ที่อยู่ดีๆ มันแตกค่ะ พอลำไส้มันแตกปุ๊บ ของเสียมันทำให้ช่องท้องมันติดเชื้อ ก็เลยต้องมีการล้างท้องซ้ำถึง 3 ครั้ง แล้วแผลผ่าตัดใหญ่มาก ลำไส้ที่ตัดไปก็ใหญ่ แล้วก็ต้องเย็บลำไส้ติดกับผนังหน้าท้อง ซึ่งมันเป็นแผลใหญ่สำหรับคนอายุ 76 อ่ะค่ะ"

แพท เล่าเรื่องราวต่อจากนั้นว่า "คือพอตัดลำไส้ไปใช่ไหมคะ เขาเอาชิ้นเนื้อเนี่ยไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งจริงๆ แล้วมันก็ลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง ประจวบกับแผลผ่าตัดค่อนข้างใหญ่ทำให้มีการติดเชื้อ คือแผลไม่แห้งซะที รวมกับต้องให้เกล็ดเลือดเพิ่ม เพราะเลือดไม่แข็งตัว มีอาการบวมน้ำเพราะในเลือดไม่มีโปรตีน มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ล้างท้องประมาณ 3 ครั้ง แล้วเหมือนร่างกายแกก็ไม่รับยา ไตวาย 2 ครั้ง จนวันที่แกจะไปก็คือหัวใจหยุดเต้น 1 ครั้ง ปั๊มขึ้นมา แล้วแพทก็คุยกับที่บ้านว่าเราจะไม่ปั๊มแล้ว เพราะว่าแกเจ็บ คุณหมอถามแพทถึงเหตุผลว่าจะให้ปั๊มหัวใจทำไม คือแพทยังไม่พร้อมที่จะเสียแกไป แต่พอจะปั๊มครั้งที่ 2 คุณหมอก็ถามแพทซ้ำว่าตอนนี้แกเจ็บมาก แกบอกว่าคุณลุงเจ็บมากนะครับคุณแพท คุณแพทให้เหตุผลคุณหมอว่าจะปั๊มขึ้นมาทำไม ในเมื่อปั๊มขึ้นมาก็อาจจะไปอีก เราก็เลยตัดสินใจที่จะให้แกไปแบบไม่เจ็บแล้วก็สบายที่สุด"

พิธีกรสาววัยเกือบ 30 ปีเปิดใจคุณพ่อเป็นห่วง อยากให้ลูกมีครอบครัว ซึ่งตนเองก็วางแผนเอาไว้ว่าอยากจะมีลูกตอนอายุ 32 ปี "คือแพลนกันไว้ว่า 32 จะมีน้อง ก็คือตั้งใจก็คือว่าจะไปหาคุณหมอ เพราะแพทเนี่ยค่อนข้างที่จะพูดตรงๆ แพทมีซีสต์แล้วก็มีลูกยาก มดลูกค่ะ" สาวสวยคนนี้อธิบายสาเหตุที่ทำให้มีลูกยากว่า "คือคุณหมอเขาบอกว่าแพทเป็นคนมีลูกยาก แล้วแพทกินยาคุมตั้งแต่แพทอายุ 20 แล้วแพทกินยาคุมมา 10 ปี เพราะว่าแพทต้องรักษาซีสต์ไม่ให้โต แล้วก็คุมระดับฮอร์โมน ทีนี้ถ้าแพทหยุด ก็แสดงว่าแพทจะสร้างฮอร์โมนเองยาก คือแล้วถ้าหยุดก็ต้องมีการเตรียมตัวอีกปีหนึ่ง คือแพทก็แบบทำไมมียากจัง" ส่วนจะมีการใช้วิธีการอื่นๆ มาช่วยให้มีลูกง่ายขึ้นหรือไม่นั้น เจ้าตัวแง้มว่า "ไม่มีเลยค่ะ อะไรที่เป็นเรื่องเสียตังเนี่ยเราจะต้องคิดไว้ท้ายๆ เราจะต้องทำเหมือนทุกอย่างมันง่ายไปก่อน แล้วเดี๋ยวพอเราไล่สเต็ปไป ค่อยว่ากัน"

#แพทณปภา