5 คำถามสกรีนคนเช่า ดีกว่าต้องมาเศร้าทีหลัง!

      ว่ากันว่า ถ้าเจอผู้เช่าแย่ๆ บางทีปล่อยบ้านให้ว่างยังจะดีซะกว่า ดังนั้น ถ้าไม่อยากจะปวดหัวเรื่องผู้เช่าทีหลังละก็ อย่าปล่อยให้ผู้เช่าเลือกเราฝ่ายเดียว คัดเลือกผู้เช่าด้วยคำถามเหล่านี้ด้วย!       ว่ากันว่า ถ้าเจอผู้เช่าแย่ๆ บางทีปล่อยบ้านให้ว่างยังจะดีซะกว่า เพราะไม่ว่าจะการตามทวงหนี้ค่าเช่าค้างจ่าย หรือทรัพย์สินที่พังเสียหาย ก็ทั้งกินเวลาและมาพร้อมค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอีกด้วย ดังนั้น วิธีรับมือกับปัญหาเรื่องการปล่อยเช่าบ้านที่ดีที่สุดคือ การไม่ให้มันเป็นปัญหาซะตั้งแต่แรก ผู้ให้เช่าจึงต้องมีการรับมือและป้องกันปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ต้องรู้จัก “สกรีน” (screen) หรือคัดเลือกผู้เช่าก่อนรับเข้ามาทำสัญญา

      วันนี้ บ้านไฟน์เดอร์ แนะนำ 5 คำถามที่คุณในฐานะเจ้าของบ้าน หรือผู้ให้เช่า ควรที่จะถามผู้เช่าก่อนที่จะตกลงทำสัญญา มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ทำไมถึงย้ายออกจากที่เดิม?

      ฟังเพลินๆ อาจจะเป็นคำถามประมาณ “ธุระไม่ใช่” ของผู้ให้เช่า แต่การถามคำถามนี้ ผู้ให้เช่าต้องรับฟังคำถามและวิธีการตอบคำถามให้ดี เพราะหากว่าเขาถูกไล่ออกมาจากที่เดิม หรือเริ่มบ่นเรื่องไม่ดีของเจ้าของเก่าที่ฟังแล้วไม่เข้าท่า ก็ต้องลองคิดให้ดีว่าคุณจะรับมือกับปัญหาเดิมของเขาได้หรือไม่ 

      คุณควรมองหาเหตุผลการย้ายออกที่มีเหตุมีผล อย่างการมองหาบ้านที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น หรือ การย้ายที่ทำงานทำให้ต้องหาที่อยู่ที่ใกล้มากขึ้น เป็นต้น

คุณวางแผนจะเข้ามาอยู่เมื่อไร?

      คำถามนี้จะช่วยให้คุณรู้ได้ว่าผู้เช่าของคุณมีความรับผิดชอบขนาดไหน ถ้าผู้ที่จะมาเช่าตอบว่า “จะย้ายเข้าอยู่เลยพรุ่งนี้ หรือสัปดาห์นี้” เขาอาจจะไม่ใช่คนที่มีความรับผิดชอบในการวางแผนอะไรตั้งแต่เนิ่นๆ เท่าที่ควร ซึ่งปกติแล้ว ถ้าผู้เช่าสักคนจะออกจากที่เช่าเดิม ก็ต้องแจ้งเจ้าของเก่าก่อนอย่างน้อย 30 วัน แต่ถ้าหากว่าคนที่ต้องการเช่าบอกว่าจะอยู่วันนี้ พรุ่งนี้เลย แสดงว่าอาจจะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็เป็นได้

      อย่างไรก็ตามในกรณี เช่น การย้ายงานกระทันหัน หรือมีปัญหาครอบครัว อาจทำให้ต้องย้ายกระทันหัน แต่ผู้เช่าที่มีความรับผิดชอบ มักจะหาที่อยู่ใหม่ล่วงหน้าอย่างน้อยก็ 1 เดือนก่อนที่จะย้ายเข้าอยู่จริง 

คุณมีอาชีพอะไร และมีรายได้จากที่ไหน?

      ถ้าคุณรู้สึกอึดอัดกับการถามรายได้ของผู้เช่าตรงๆ คุณอาจจะถามถึงอาชีพว่าตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่ กับบริษัทอะไร (อย่างน้อยพวกเขาต้องทำงานละ เพราะคุณคงไม่อยากรับคนว่างงานที่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคุณแน่ๆ) คำถามนี้จะไม่เพียงแต่จะทำให้คุณรู้ถึงความสามารถในการจ่ายค่าเช่าบ้านของผู้เช่า แต่ยังรู้ถึงการใช้ชีวิตของพวกเขา เช่นบางอาชีพอาจมีการทำงานกะดึก ซึ่งผู้ให้เช่าก็ต้องประเมินให้เข้ากับละแวกเพื่อนบ้านด้วย 

      คุณอาจจะชี้แจ้งคนที่จะเช่าถึง เงินค่ามัดจำหรือค่าเช่าล่วงหน้าว่าหากทำสัญญา พวกเขาจะมีต้องมีเงินสดจ่ายคุณเป็นจำนวนเท่าไร ถ้าหากว่าเขาขอต่อราคาที่ต่ำเกินไป นั่นแสดงว่าผู้เช่าอาจจะไม่มีความสามารถในการจ่ายค่าเช่าในระยะยาวก็เป็นได้

มีคนที่จะอยู่อาศัยในบ้านเช่ากี่คน?

      ถ้าหากว่าบ้านของคุณเป็นทาว์นเฮ้าส์ 2 ชั้น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่ผู้เช่า ขออาศัยอยู่ 10 กว่าคน คุณต้องคิดแล้วว่า สภาพบ้านของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อมีคนอาศัยอยู่เยอะเกินไป รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัย เมื่อเกิดเหตุอันตรายอย่างเช่น ไฟไหม้ ด้วย สำหรับจำนวนของผู้เช่าที่แนะนำคือ ไม่ควรเกิน 2 คนต่อ 1 ห้องนอนที่มี   

คุณมีสัตว์เลี้ยง หรือสูบบุหรี่หรือเปล่า?

      บ่อยครั้งที่คำถามเหล่านี้ถูกละเลย แต่หากว่าคุณไม่ต้องการสัตว์เลี้ยงในห้องเช่าที่อาจจะทำลายเฟอร์นิเจอร์ของคุณ หรือกลิ่นของบุหรี่ที่อาจจะติดในพรมหรือเบาะโซฟาบ้านเช่าของคุณ การถามคำถามเหล่านี้ให้เคลียในการเจอกันครั้งแรก ก็จะช่วยไม่ให้คุณต้องมาปวดหัว นั่งแก้ปัญหาภายหลังแน่ๆ 

      เมื่อคุณถามคำถามเหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมถามผู้เช่าว่าพวกเขา “มีคำถามอะไรไหม” การทิ้งท้ายด้วยคำถามนี้จะช่วยผู้ให้เช่ารู้ถึง ความกังวลใจหรือสิ่งที่ผู้เช่าให้ความสำคัญอยู่ ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นว่าบ้านให้เช่าของคุณ เหมาะสมกับพวกเขาหรือไม่ด้วยนะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.thaihomeonline.com/article/guide/12185/