รู้จักโรค Smartphone Syndrome ภัยเงียบสำหรับชาวเน็ตและหนทางแก้ไข
22 ก.ค. 61 17:55 น. /
ดู 258 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เรื่องโดย ภูริตา บุญล้อม
ที่มา https://thestandard.co/smartphone-syndrome/
HIGHLIGHTS
รู้จักที่มาของโรค Smartphone Syndrome ซึ่งเป็นภัยเงียบของคนที่ติดเล่นสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน มักมีอาการปวดที่บริเวณคอกับข้อมือ รวมถึงปวดนิ้ว
ขั้นตอนการรักษาเริ่มจากปรึกษาแพทย์ ตรวจคลำดูอาการบริเวณจุดปวดตามข้อมือ และรักษาด้วยการฝังเข็ม ซึ่งจะไม่หายขาดหากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน
ควรเซตเวลาพักสัก 10-15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลย ควรทำการพักสายตา พักคอ พักข้อมือ และทำการสลัดข้อมือเบาๆ ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย สุขภาพดีจะเริ่มต้นที่การปฏิบัติตัวดีเท่านั้น
สมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนยุคนี้ ยิ่งช่วงไหนมีข่าวฮอตประเด็นร้อนเกิดขึ้นในสังคม หลายคนหยุดไถหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้เลย แต่รู้ไหมว่าการเล่นโทรศัพท์มากๆ ทำให้เกิดโรค Smartphone Syndrome ได้นะ ว่าแต่โรคนี้คืออะไร ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน THE STANDARD จะพาไปรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นจาก แพทย์หญิงเพ็ญลดา ครุธโกษา (ซีอีโอธุรกิจความงาม Aime Clinic) และหมอโจ้-พชร ชารัมย์ หมอฝังเข็มแก้อาการ Smartphone Syndrome
Smartphone Syndrome คืออะไร
แพทย์หญิงเพ็ญลดาบอกว่า Work & Smartphone Syndrome หรืออีกชื่อคือโรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง แต่ก่อนเราอาจจะเคยได้ยินโรค Office Syndrome มาก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดกับคนทำงานออฟฟิศ คนที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ จนส่งผลให้บริเวณคอ บ่า ไหล่มีอาการปวด บางคนลามลงมาถึงช่วงบริเวณข้อมือและแขน
แต่ในสมัยนี้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้คนติดมือถือมากขึ้น ก้มหน้ากดมือถืออยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาปวดที่บริเวณคอกับข้อมือหรือปวดนิ้วเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งคำว่า Smartphone Syndrome ที่ต่างประเทศเขามีคำนี้มาสักพักแล้ว และมันก็ตรงกับอาการที่คนสมัยนี้เป็นกันเยอะโดยไม่รู้ตัว
อาการของคนที่เป็นโรค Smartphone Syndrome
หมอโจ้-พชร ชารัมย์ แพทย์แผนจีน วัย 28 ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนแห่งนครกวางโจว ประเทศจีน กล่าวถึงอาการของ Smartphone Syndrome ดังนี้
หมอโจ้: อาการหลักๆ ของโรค Smartphone Syndrome คือการปวดเกร็งที่เกิดกับเอ็นข้อมือ จริงๆ อาการนี้มันก็เกิดมานานแล้ว แต่ก่อนอาจจะมีคนเป็นไม่เยอะ แต่ปัจจุบันคนยุคนี้ติดเล่นมือถือตลอดเวลา พอเราขยับมือบ่อยๆ เป็นเวลานานมันจะเกิดการเสียดสีของเส้นเอ็น นานๆ เข้าก็เกิดการอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกปวดบริเวณข้อมือมากขึ้น กลุ่มอาการที่เคยเป็นมาก่อนเกี่ยวกับเส้นเอ็นอักเสบ แต่ก่อนเราอาจพบในกลุ่มของนักกีฬาที่ใช้ข้อมือค่อนข้างเยอะ เช่น ปิงปอง แบดมินตัน เทนนิส ที่เกิดการอักเสบของข้อมือได้ ในกลุ่มพนักงานธนาคารหรือคนที่เป็นแอดมินเพจต่างๆ ที่ต้องใช้ข้อมือในการพิมพ์อย่างต่อเนื่องก็มักเกิดอาการปวดเส้นเอ็นบริเวณข้อมือได้เหมือนกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเป็นโรค Smartphone Syndrome หรือไม่
หมอโจ้: หลายคนพอเล่นมือถือนานๆ แล้วเกิดอาการปวดแปลบๆ ก็มักจะไม่ได้คิดอะไร ส่วนใหญ่จะไม่สังเกตว่าตัวเองเสี่ยงจะเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเอ็นหรือเปล่า เพราะคิดว่าเมื่อยมือเมื่อไร แค่บีบๆ หรือสลัดมือสักพักก็ผ่อนคลายได้ แต่ถ้าทิ้งไว้เป็นเวลานานแล้วพบว่าอาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น มีอาการบวมเกิดขึ้น ก็ถือว่าเสี่ยงจะเป็นโรค Smartphone Syndrome อาการเหล่านี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษาจะไม่เป็นผลดีต่อเส้นเอ็นและข้อมือ วิธีสังเกตเบื้องต้นอย่างง่ายๆ คือลองใช้นิ้วมือทั้งสี่กำหัวนิ้วโป้งไว้ เหยียดแขน และกดกำมือลง ถ้ารู้สึกเกร็งๆ แสดงว่ามีอาการของโรค Smartphone Syndrome แล้วล่ะ แต่ถ้ากดมือลงแล้วปวดเลยก็ควรรักษา
ขั้นตอนการรักษาโรค Smartphone Syndrome
หมอโจ้: อันดับแรกต้องมาปรึกษากับแพทย์ก่อนครับ หมอจะถามถึงอาการ ระยะเวลาที่เริ่มแสดงอาการ รวมถึงสอบถามเรื่องไลฟ์สไตล์ ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ทำงานอะไร เพื่อจะหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ช่วยให้เราประเมินอาการของโรคได้ ขั้นตอนต่อมาคือการคลำ การคลำจุดที่ปวดจะทำให้รู้ที่มาของอาการปวดว่าเกิดจากกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น มันจะต่างกันจากลักษณะกายภาพซึ่งทำให้เรารู้ว่าตรงไหนคือกล้ามเนื้อ ตรงไหนคือเส้นเอ็น และการปวดแบบโรคนี้ส่วนมากก็จะเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นบริเวณข้อต่างๆ จากนั้นค่อยนำไปสู่การรักษาด้วยการฝังเข็ม
การฝังเข็มแก้อาการช่วยได้จริงหรือ
หมอโจ้: การฝังเข็มจะทำการฝังบริเวณจุดที่เรียกว่า Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ เป็นจุดที่พังผืดมันไปเกาะตัวเป็นก้อน สังเกตดูว่าถ้ากดลงไปจะเจ็บมาก การฝังเข็มจะทำให้จุดตรงนั้นคลายตัว ช่วยเรื่องลดอาการปวด ซึ่งจะเป็นจุดหลักในการรักษาอาการ ถ้าคนที่มีอาการปวดมานาน การฝังเข็มครั้งเดียวจะไม่หายในทันที เพราะต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 ครั้ง การฝังเข็มในครั้งแรกอาจจะเห็นผล 50% ว่าอาการปวดลดลง มันจะรู้สึกดีขึ้น ถามว่าฝังเข็มแล้วจะหายขาดเลยไหม มันไม่หายถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม อย่างบางคนฝังเข็มเสร็จแล้วยังต้องกลับไปทำงานแบบเดิมๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่หายขาด ทางที่ดีอยากให้บริหารข้อมือและตรวจเช็กอาการของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การนวดเพื่อบรรเทาด้วยตัวเองสามารถทำได้ ลองสังเกตดูว่าถ้านวดหรือกดลงไปแล้วรู้สึกสบาย อันนี้คือเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ถ้ากดลงไปแล้วรู้สึกเจ็บ อันนี้คืออาจเริ่มเกิดการอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและทำการรักษาเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบรุนแรง
ตอนนี้ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Smartphone Syndrome ไปพอสมควรทีเดียว หมอโจ้ฝากบอกกับผู้อ่าน THE STANDARD ของเราด้วยว่า ถ้าเราปฏิบัติตัวดี โรคนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเลย ผมอยากแนะนำว่าในทุกๆ 1 ชั่วโมงควรเซตเวลาพักสัก 10-15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลย ควรทำการพักสายตา พักคอ พักข้อมือ และทำการสลัดข้อมือเบาๆ ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย อย่าทำงานเพลิน อย่าติดมือถือจนเกินไป สุขภาพดีเริ่มต้นที่การปฏิบัติตัวดี
ภาพประกอบ: Pantitra H.
ที่มา https://thestandard.co/smartphone-syndrome/
HIGHLIGHTS
รู้จักที่มาของโรค Smartphone Syndrome ซึ่งเป็นภัยเงียบของคนที่ติดเล่นสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน มักมีอาการปวดที่บริเวณคอกับข้อมือ รวมถึงปวดนิ้ว
ขั้นตอนการรักษาเริ่มจากปรึกษาแพทย์ ตรวจคลำดูอาการบริเวณจุดปวดตามข้อมือ และรักษาด้วยการฝังเข็ม ซึ่งจะไม่หายขาดหากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน
ควรเซตเวลาพักสัก 10-15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลย ควรทำการพักสายตา พักคอ พักข้อมือ และทำการสลัดข้อมือเบาๆ ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย สุขภาพดีจะเริ่มต้นที่การปฏิบัติตัวดีเท่านั้น
สมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนยุคนี้ ยิ่งช่วงไหนมีข่าวฮอตประเด็นร้อนเกิดขึ้นในสังคม หลายคนหยุดไถหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้เลย แต่รู้ไหมว่าการเล่นโทรศัพท์มากๆ ทำให้เกิดโรค Smartphone Syndrome ได้นะ ว่าแต่โรคนี้คืออะไร ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน THE STANDARD จะพาไปรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นจาก แพทย์หญิงเพ็ญลดา ครุธโกษา (ซีอีโอธุรกิจความงาม Aime Clinic) และหมอโจ้-พชร ชารัมย์ หมอฝังเข็มแก้อาการ Smartphone Syndrome
Smartphone Syndrome คืออะไร
แพทย์หญิงเพ็ญลดาบอกว่า Work & Smartphone Syndrome หรืออีกชื่อคือโรคกล้ามเนื้อคอหดเกร็ง แต่ก่อนเราอาจจะเคยได้ยินโรค Office Syndrome มาก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดกับคนทำงานออฟฟิศ คนที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ จนส่งผลให้บริเวณคอ บ่า ไหล่มีอาการปวด บางคนลามลงมาถึงช่วงบริเวณข้อมือและแขน
แต่ในสมัยนี้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้คนติดมือถือมากขึ้น ก้มหน้ากดมือถืออยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาปวดที่บริเวณคอกับข้อมือหรือปวดนิ้วเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งคำว่า Smartphone Syndrome ที่ต่างประเทศเขามีคำนี้มาสักพักแล้ว และมันก็ตรงกับอาการที่คนสมัยนี้เป็นกันเยอะโดยไม่รู้ตัว
อาการของคนที่เป็นโรค Smartphone Syndrome
หมอโจ้-พชร ชารัมย์ แพทย์แผนจีน วัย 28 ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนแห่งนครกวางโจว ประเทศจีน กล่าวถึงอาการของ Smartphone Syndrome ดังนี้
หมอโจ้: อาการหลักๆ ของโรค Smartphone Syndrome คือการปวดเกร็งที่เกิดกับเอ็นข้อมือ จริงๆ อาการนี้มันก็เกิดมานานแล้ว แต่ก่อนอาจจะมีคนเป็นไม่เยอะ แต่ปัจจุบันคนยุคนี้ติดเล่นมือถือตลอดเวลา พอเราขยับมือบ่อยๆ เป็นเวลานานมันจะเกิดการเสียดสีของเส้นเอ็น นานๆ เข้าก็เกิดการอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกปวดบริเวณข้อมือมากขึ้น กลุ่มอาการที่เคยเป็นมาก่อนเกี่ยวกับเส้นเอ็นอักเสบ แต่ก่อนเราอาจพบในกลุ่มของนักกีฬาที่ใช้ข้อมือค่อนข้างเยอะ เช่น ปิงปอง แบดมินตัน เทนนิส ที่เกิดการอักเสบของข้อมือได้ ในกลุ่มพนักงานธนาคารหรือคนที่เป็นแอดมินเพจต่างๆ ที่ต้องใช้ข้อมือในการพิมพ์อย่างต่อเนื่องก็มักเกิดอาการปวดเส้นเอ็นบริเวณข้อมือได้เหมือนกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเป็นโรค Smartphone Syndrome หรือไม่
หมอโจ้: หลายคนพอเล่นมือถือนานๆ แล้วเกิดอาการปวดแปลบๆ ก็มักจะไม่ได้คิดอะไร ส่วนใหญ่จะไม่สังเกตว่าตัวเองเสี่ยงจะเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเอ็นหรือเปล่า เพราะคิดว่าเมื่อยมือเมื่อไร แค่บีบๆ หรือสลัดมือสักพักก็ผ่อนคลายได้ แต่ถ้าทิ้งไว้เป็นเวลานานแล้วพบว่าอาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น มีอาการบวมเกิดขึ้น ก็ถือว่าเสี่ยงจะเป็นโรค Smartphone Syndrome อาการเหล่านี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษาจะไม่เป็นผลดีต่อเส้นเอ็นและข้อมือ วิธีสังเกตเบื้องต้นอย่างง่ายๆ คือลองใช้นิ้วมือทั้งสี่กำหัวนิ้วโป้งไว้ เหยียดแขน และกดกำมือลง ถ้ารู้สึกเกร็งๆ แสดงว่ามีอาการของโรค Smartphone Syndrome แล้วล่ะ แต่ถ้ากดมือลงแล้วปวดเลยก็ควรรักษา
ขั้นตอนการรักษาโรค Smartphone Syndrome
หมอโจ้: อันดับแรกต้องมาปรึกษากับแพทย์ก่อนครับ หมอจะถามถึงอาการ ระยะเวลาที่เริ่มแสดงอาการ รวมถึงสอบถามเรื่องไลฟ์สไตล์ ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ทำงานอะไร เพื่อจะหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ช่วยให้เราประเมินอาการของโรคได้ ขั้นตอนต่อมาคือการคลำ การคลำจุดที่ปวดจะทำให้รู้ที่มาของอาการปวดว่าเกิดจากกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น มันจะต่างกันจากลักษณะกายภาพซึ่งทำให้เรารู้ว่าตรงไหนคือกล้ามเนื้อ ตรงไหนคือเส้นเอ็น และการปวดแบบโรคนี้ส่วนมากก็จะเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นบริเวณข้อต่างๆ จากนั้นค่อยนำไปสู่การรักษาด้วยการฝังเข็ม
การฝังเข็มแก้อาการช่วยได้จริงหรือ
หมอโจ้: การฝังเข็มจะทำการฝังบริเวณจุดที่เรียกว่า Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ เป็นจุดที่พังผืดมันไปเกาะตัวเป็นก้อน สังเกตดูว่าถ้ากดลงไปจะเจ็บมาก การฝังเข็มจะทำให้จุดตรงนั้นคลายตัว ช่วยเรื่องลดอาการปวด ซึ่งจะเป็นจุดหลักในการรักษาอาการ ถ้าคนที่มีอาการปวดมานาน การฝังเข็มครั้งเดียวจะไม่หายในทันที เพราะต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 ครั้ง การฝังเข็มในครั้งแรกอาจจะเห็นผล 50% ว่าอาการปวดลดลง มันจะรู้สึกดีขึ้น ถามว่าฝังเข็มแล้วจะหายขาดเลยไหม มันไม่หายถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม อย่างบางคนฝังเข็มเสร็จแล้วยังต้องกลับไปทำงานแบบเดิมๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่หายขาด ทางที่ดีอยากให้บริหารข้อมือและตรวจเช็กอาการของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การนวดเพื่อบรรเทาด้วยตัวเองสามารถทำได้ ลองสังเกตดูว่าถ้านวดหรือกดลงไปแล้วรู้สึกสบาย อันนี้คือเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ถ้ากดลงไปแล้วรู้สึกเจ็บ อันนี้คืออาจเริ่มเกิดการอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและทำการรักษาเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบรุนแรง
ตอนนี้ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Smartphone Syndrome ไปพอสมควรทีเดียว หมอโจ้ฝากบอกกับผู้อ่าน THE STANDARD ของเราด้วยว่า ถ้าเราปฏิบัติตัวดี โรคนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเลย ผมอยากแนะนำว่าในทุกๆ 1 ชั่วโมงควรเซตเวลาพักสัก 10-15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลย ควรทำการพักสายตา พักคอ พักข้อมือ และทำการสลัดข้อมือเบาๆ ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย อย่าทำงานเพลิน อย่าติดมือถือจนเกินไป สุขภาพดีเริ่มต้นที่การปฏิบัติตัวดี
ภาพประกอบ: Pantitra H.
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google