เสี่ยวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งคนไทยและ ต่างชาติ
4 พ.ย. 61 22:34 น. /
ดู 321 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
จากข่าวดังวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงตอนนี้กับเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงกับทั้งคนไทยและคนอังกฤษกับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา และก็ได้มีคนอังกฤษและแฟนบอลเลสเตอร์ออกมาแสดงความเสียใจร่วมวางช่อดอกไม้บริเวณหน้าสนามคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจากที่ได้ดู Live ใจเพจ BBCThai https://www.facebook.com/BBCThai/videos/1140138969478512
จากได้ฟังนักข่าวสัมภาษณ์แฟนบอลท้องถิ่นชาวอังกฤษและคนไทยที่อยู่ที่นั่น ก็ได้เห็นว่าคุณวิชัย ไม่ได้เป็นแค่ประธานสโมสรหรือนักธุรกิจอย่างเดียว แต่เค้าได้ทำประโยชน์ให้กับคนเลสเตอร์ด้วย จึงเป็นที่รักของคนเลสเตอร์
และจากการนั่งอ่านข่าว และคอมเม้นท์ทั้งวันทำให้เราอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น และอยากรู้ว่าเขาทำอะไรให้กับสังคมบ้าง
ถ้าถามว่าทำไม นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ถึงได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้วยที่ทั้งเป็นประธานบริษัทคิง เพาเวอร์ เป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และเป็น อภิมหาเศรษฐีไทยที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
นอกจากบทบาทของผู้นำด้านการบริหารจัดการร้านค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free ยังให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคม โดยในปี 2560 ได้ริเริ่มโครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ที่ส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนไทยให้ได้แสดงศักยภาพบนเวทีโลก โดยแบ่งการสนับสนุนออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
1.พลังด้านกีฬา (SPORT POWER)
ภาพจำสำคัญของ King Power คือการบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของอังกฤษมาได้ จึงนำแรงบันดาลใจส่วนนี้ส่งต่อไปถึงเยาวชนที่ชื่นชอบฟุตบอล โดยการมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกผ่านโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สานฝันเด็กไทย นอกจากนี้ยังมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล จำนวน 100 สนามภายใน 5 ปีนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการ Fox Hunt ซึ่งจะมอบทุนการศึกษาให้เยาวชนและส่งไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษอีกด้วย
2. พลังด้านดนตรี (MUSIC POWER)
โรงละครอักษราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้โอกาสนักดนตรีไทยที่มีความสามารถระดับสากลมาร่วมแสดง และเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ Duty Free จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนศักยภาพคนดนตรี
3. พลังของชุมชน (COMMUNITY POWER)
เน้นการให้ความรู้กับชาวบ้าน ผู้ผลิตในชุมชน เพื่อพัฒนาสินค้าชุมชน หรือ OTOP สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งสินค้าหัตถกรรม อาหาร และของที่ระลึก นอกจากนี้ยังช่วยจัดจำหน่ายสินค้าโดยจัดโซนสินค้า OTOP ที่สนามบิน และที่ King Power ทุกสาขา เพื่อเผยแพร่สินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แพร่หลาย ล่าสุดเปิดตัวคอลเล็กชัน INDIGO ซึ่งนำเสน่ห์ของผ้าสีย้อมครามมาออกแบบตัดเย็บใหม่ให้ดูทันสมัยและสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยทีมนักออกแบบของ King Power ทำงานร่วมกับกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร ครูช่างศิลปหัตถกรรม และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ซึ่งวางจำหน่ายที่ The City Fanstore at King Power Stadium เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
4. พลังด้านการศึกษาและสาธารณสุข (EDUCATION & HEALTH POWER)
นั้น มีมูลนิธิ King Power เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาการศึกษาและสาธารณสุขแก่เยาวชน ซึ่งกิจกรรมนี้มีมาถึง 13 ปีแล้ว โครงการช่วยเหลือต่างๆได้แก่ โครงการมอบตู้อบเด็กให้กับโรงพยาบาลในชนบท ซึ่งช่วยให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีสุขภาพที่แข็งแรงและเติบโต นอกจากนี้ยังสนุบสนุนโครงการก้าวคนละก้าวในปี 2560 เพื่อช่วยระดมทุนแก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน 11 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนในเรื่องฝีมือการปลุกปั้นทีมเลสเตอร์จากทีมเล็ก ๆ ให้เข้มแข็งจนสามารถ ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก และก้าวไปคว้าถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษนี่เองที่ทำให้นายวิชัย กับครอบครัวศรีวัฒนประภากลายเป็นที่รู้จัก และนับถือในความสามารถจากคนทั่วโลก
ทางธุรกิจนายวิชัย เป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่และมีผลงานการบริหารธุรกิจมามากมาย ทั้งกิจการของตนเองและร่วมบริหาร เช่น บริษัทศรีอักษร (1980) จำกัด, กรรมการบริษัทไทยนิชิกาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ จำกัด (มหาชน), กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส.(ไทยแลนด์) จำกัด และ กรรมการบริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีที่สร้างชื่อเสียงของนายวิชัยให้เป็นที่รู้จักนั้น เขาเริ่มบริหารงานในธุรกิจของครอบครัวบริษัทศรีอักษร ในปี 2523 จากนั้นในปี 2532 วิชัย เริ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินฮ่องกง จากชักชวนของเพื่อนชาวฮ่องกง จากนั้นด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ คิง เพาเวอร์ ได้เปิดร้านดิวตี้ฟรีที่กลางเมืองย่านเพลินจิตในปี 2532 และปี 2538 ได้สัมปทานในสนามบินดอนเมือง
จุดหัวเลี้ยวหัวต่อทางธุรกิจ คือ ช่วงปี 2549 เมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ คิง เพาเวอร์ กลายเป็นบริษัทได้บริหารพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายวิชัย เช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปลุกปั้น คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ที่ซอยรางน้ำ ย่าน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ
ปัจจุบัน เจ้าสัววิชัย เป็นประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรฯเลสเตอร์ ซิตี้ โดยเข้าไปซื้อกิจการในปี พ.ศ.2553 ซึ่งช่วงแรกถือหุ้น 51% ก่อนที่ในปีเดียวกันได้เข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% มูลค่าการซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ราว 40 ล้านปอนด์ และในปี พ.ศ.2554 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรฯอย่างเต็มตัว
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ในการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2561 นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยมีทรัพย์สินทั้งหมด 5,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 171,000 ล้านบาท
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นความดี ที่คุณวิชัยได้สร้างไว้ได้ปรากฏให้พวกเราทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เห็นแล้ว ผมก็ขอขอบคุณท่านอย่างมาก ที่คอยสนับสนุนโครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาล สนับสนุนเด็กไทยฝึกฝีเท้าที่สโมสร มอบสนามและลูกฟุตบอลที่มีมาตรฐานให้กับคนไทย ช่วยชาวบ้านส่งเสริมสินค้าไทยให้คนต่างชาติรู้จัก และรู้สึกดีใจมากที่มีท่านคนนึงได้ช่วยเหลือสังคมไทยไว้เยอะมาก ๆ
เครดิต: https://thestandard.co/king-power-thai-power-csr/
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000107512
จากได้ฟังนักข่าวสัมภาษณ์แฟนบอลท้องถิ่นชาวอังกฤษและคนไทยที่อยู่ที่นั่น ก็ได้เห็นว่าคุณวิชัย ไม่ได้เป็นแค่ประธานสโมสรหรือนักธุรกิจอย่างเดียว แต่เค้าได้ทำประโยชน์ให้กับคนเลสเตอร์ด้วย จึงเป็นที่รักของคนเลสเตอร์
และจากการนั่งอ่านข่าว และคอมเม้นท์ทั้งวันทำให้เราอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น และอยากรู้ว่าเขาทำอะไรให้กับสังคมบ้าง
นอกจากบทบาทของผู้นำด้านการบริหารจัดการร้านค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free ยังให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคม โดยในปี 2560 ได้ริเริ่มโครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ที่ส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนไทยให้ได้แสดงศักยภาพบนเวทีโลก โดยแบ่งการสนับสนุนออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
1.พลังด้านกีฬา (SPORT POWER)
ภาพจำสำคัญของ King Power คือการบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของอังกฤษมาได้ จึงนำแรงบันดาลใจส่วนนี้ส่งต่อไปถึงเยาวชนที่ชื่นชอบฟุตบอล โดยการมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกผ่านโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สานฝันเด็กไทย นอกจากนี้ยังมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล จำนวน 100 สนามภายใน 5 ปีนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการ Fox Hunt ซึ่งจะมอบทุนการศึกษาให้เยาวชนและส่งไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษอีกด้วย
2. พลังด้านดนตรี (MUSIC POWER)
โรงละครอักษราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้โอกาสนักดนตรีไทยที่มีความสามารถระดับสากลมาร่วมแสดง และเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ Duty Free จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนศักยภาพคนดนตรี
3. พลังของชุมชน (COMMUNITY POWER)
เน้นการให้ความรู้กับชาวบ้าน ผู้ผลิตในชุมชน เพื่อพัฒนาสินค้าชุมชน หรือ OTOP สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งสินค้าหัตถกรรม อาหาร และของที่ระลึก นอกจากนี้ยังช่วยจัดจำหน่ายสินค้าโดยจัดโซนสินค้า OTOP ที่สนามบิน และที่ King Power ทุกสาขา เพื่อเผยแพร่สินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แพร่หลาย ล่าสุดเปิดตัวคอลเล็กชัน INDIGO ซึ่งนำเสน่ห์ของผ้าสีย้อมครามมาออกแบบตัดเย็บใหม่ให้ดูทันสมัยและสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยทีมนักออกแบบของ King Power ทำงานร่วมกับกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร ครูช่างศิลปหัตถกรรม และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ซึ่งวางจำหน่ายที่ The City Fanstore at King Power Stadium เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
4. พลังด้านการศึกษาและสาธารณสุข (EDUCATION & HEALTH POWER)
นั้น มีมูลนิธิ King Power เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาการศึกษาและสาธารณสุขแก่เยาวชน ซึ่งกิจกรรมนี้มีมาถึง 13 ปีแล้ว โครงการช่วยเหลือต่างๆได้แก่ โครงการมอบตู้อบเด็กให้กับโรงพยาบาลในชนบท ซึ่งช่วยให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีสุขภาพที่แข็งแรงและเติบโต นอกจากนี้ยังสนุบสนุนโครงการก้าวคนละก้าวในปี 2560 เพื่อช่วยระดมทุนแก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน 11 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนในเรื่องฝีมือการปลุกปั้นทีมเลสเตอร์จากทีมเล็ก ๆ ให้เข้มแข็งจนสามารถ ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก และก้าวไปคว้าถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษนี่เองที่ทำให้นายวิชัย กับครอบครัวศรีวัฒนประภากลายเป็นที่รู้จัก และนับถือในความสามารถจากคนทั่วโลก
ทางธุรกิจนายวิชัย เป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่และมีผลงานการบริหารธุรกิจมามากมาย ทั้งกิจการของตนเองและร่วมบริหาร เช่น บริษัทศรีอักษร (1980) จำกัด, กรรมการบริษัทไทยนิชิกาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ จำกัด (มหาชน), กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส.(ไทยแลนด์) จำกัด และ กรรมการบริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีที่สร้างชื่อเสียงของนายวิชัยให้เป็นที่รู้จักนั้น เขาเริ่มบริหารงานในธุรกิจของครอบครัวบริษัทศรีอักษร ในปี 2523 จากนั้นในปี 2532 วิชัย เริ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินฮ่องกง จากชักชวนของเพื่อนชาวฮ่องกง จากนั้นด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ คิง เพาเวอร์ ได้เปิดร้านดิวตี้ฟรีที่กลางเมืองย่านเพลินจิตในปี 2532 และปี 2538 ได้สัมปทานในสนามบินดอนเมือง
จุดหัวเลี้ยวหัวต่อทางธุรกิจ คือ ช่วงปี 2549 เมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ คิง เพาเวอร์ กลายเป็นบริษัทได้บริหารพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายวิชัย เช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปลุกปั้น คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ที่ซอยรางน้ำ ย่าน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ
ปัจจุบัน เจ้าสัววิชัย เป็นประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรฯเลสเตอร์ ซิตี้ โดยเข้าไปซื้อกิจการในปี พ.ศ.2553 ซึ่งช่วงแรกถือหุ้น 51% ก่อนที่ในปีเดียวกันได้เข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% มูลค่าการซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ราว 40 ล้านปอนด์ และในปี พ.ศ.2554 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรฯอย่างเต็มตัว
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ในการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2561 นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยมีทรัพย์สินทั้งหมด 5,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 171,000 ล้านบาท
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นความดี ที่คุณวิชัยได้สร้างไว้ได้ปรากฏให้พวกเราทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เห็นแล้ว ผมก็ขอขอบคุณท่านอย่างมาก ที่คอยสนับสนุนโครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาล สนับสนุนเด็กไทยฝึกฝีเท้าที่สโมสร มอบสนามและลูกฟุตบอลที่มีมาตรฐานให้กับคนไทย ช่วยชาวบ้านส่งเสริมสินค้าไทยให้คนต่างชาติรู้จัก และรู้สึกดีใจมากที่มีท่านคนนึงได้ช่วยเหลือสังคมไทยไว้เยอะมาก ๆ
เครดิต: https://thestandard.co/king-power-thai-power-csr/
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000107512
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google