โซลาร์รูฟท็อป (Solar rooftop) คืออะไร?
19 ก.ย. 62 17:38 น. /
ดู 1,819 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
รัฐบาลหนุนการผลิตไฟฟ้าจากโซล่ารูฟท็อป ปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวม 200 เมกะวัตต์ พร้อมมีมาตรการจูงใจทั้ง Feed in tariff และมาตรการทางภาษีเพิ่มเติม มั่นใจส่งเสริมได้ตามเป้า
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปิดรับสมัครการยื่นคำขอเพื่อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ โซล่ารูฟท็อป (Solar Rooftop) สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และอาคารธุรกิจ หรือ โรงงานไปแล้ว ด้วยปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวม 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น บ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดติดตั้ง 0-10 กิโลวัตต์ จำนวน 100 เมกะวัตต์ และอาคารธุรกิจขนาดเล็ก -กลาง -ใหญ่ ที่ติดตั้ง 10-1,000 กิโลวัตต์ จำนวน 100 เมกะวัตต์
โดยอัตรารับซื้อไฟฟ้าเป็นไปตามต้นทุนจริง หรือ Feed in tariff 25 ปี ราคา 6.16-6.96 บาทต่อหน่วยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 6.96 บาทต่อหน่วย กำลังการผลิตไฟไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ธุรกิจขนาดเล็กผลิตไฟไม่เกิน 25 กิโลวัตต์ อยู่ที่ 6.55 บาทต่อหน่วย และธุรกิจขนาดกลาง และใหญ่อยู่ที่ 6.16 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาอุดหนุนค่าไฟทั้งสิ้น 25 ปี และอัตราดังกล่าวจะประกาศใช้ระหว่างปี 2556-2557 ซึ่งหากต้นทุนต่างๆ ลดลงอัตราดังกล่าวจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทุกปี ซึ่งแผนส่งเสริมครั้งนี้จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าเพียง 0.50 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายใน 31 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง อาจเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการสนับสนุนทำได้หลายรูปแบบมากกว่ามาตรการภาษี เช่น สิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ภาคครัวเรือน และธุรกิจตัดสินใจง่ายขึ้นสำหรับการลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป
โดยเฉพาะในภาวะที่ก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า มีแนวโน้มจะหมดจากอ่าวไทยในระยะ 10 ปีข้างหน้า พลังงานทดแทนอย่างแสงอาทิตย์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือนหรือภาคธุรกิจ
ขอบคุณข้อมูลจากทาง: Energy Hub และ กระทรวงพลังงาน
อ้างอิง:http://webkc.dede.go.th/testmax/node/185
อ้างอิง:https://www.youtube.com/watch?v=p5KO96hvOoE&feature=youtu.be
โดยอัตรารับซื้อไฟฟ้าเป็นไปตามต้นทุนจริง หรือ Feed in tariff 25 ปี ราคา 6.16-6.96 บาทต่อหน่วยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 6.96 บาทต่อหน่วย กำลังการผลิตไฟไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ธุรกิจขนาดเล็กผลิตไฟไม่เกิน 25 กิโลวัตต์ อยู่ที่ 6.55 บาทต่อหน่วย และธุรกิจขนาดกลาง และใหญ่อยู่ที่ 6.16 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาอุดหนุนค่าไฟทั้งสิ้น 25 ปี และอัตราดังกล่าวจะประกาศใช้ระหว่างปี 2556-2557 ซึ่งหากต้นทุนต่างๆ ลดลงอัตราดังกล่าวจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทุกปี ซึ่งแผนส่งเสริมครั้งนี้จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าเพียง 0.50 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายใน 31 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง อาจเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการสนับสนุนทำได้หลายรูปแบบมากกว่ามาตรการภาษี เช่น สิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ภาคครัวเรือน และธุรกิจตัดสินใจง่ายขึ้นสำหรับการลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป
โดยเฉพาะในภาวะที่ก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า มีแนวโน้มจะหมดจากอ่าวไทยในระยะ 10 ปีข้างหน้า พลังงานทดแทนอย่างแสงอาทิตย์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือนหรือภาคธุรกิจ
ขอบคุณข้อมูลจากทาง: Energy Hub และ กระทรวงพลังงาน
อ้างอิง:http://webkc.dede.go.th/testmax/node/185
อ้างอิง:https://www.youtube.com/watch?v=p5KO96hvOoE&feature=youtu.be
แก้ไขล่าสุด 20 ก.ย. 62 12:50 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google