มาทำความรู้จักโรคนิ้วล็อค โรคฮิตของคนส่วนใหญ่ในวัยทำงาน
2 พ.ย. 63 13:25 น. /
ดู 4,841 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
หลาย ๆ คนในวัยทำงานมักจะเจอปัญหา โรคนิ้วล็อค กันเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้มือในการเกร็งทำงานเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพครูที่จะต้องจับปากกา หรือชอล์กเขียนกระดานเป็นเวลานาน หรือช่างตัดผมที่จะต้องใช้มือ หรือนิ้ว ในการจับกรรไกรไว้ตลอด ซึ่งการหยิบจับสิ่งของ หรือใช้อุปกรณ์เป็นเวลานานเป็นต้นเหตุของการเกิดอาการนิ้วล็อคได้ แต่ในปัจจุบันโรคนิ้วล็อคไม่ได้เป็นแค่วัยทำงานเท่านั้น แต่ยังเกิดกับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนนาน ๆ ได้เนื่องจากการออกแรงกำแน่น ๆ แล้วทำต่อเนื่องกันซ้ำ ๆ เป็นเวลาครั้งละนาน ๆ ก็ทำให้เกิดอาการนิ้วล็อคได้ อีกด้วยเช่นกัน
โรคนิ้วล็อค
" เป็นความผิดปกติของมือที่ไม่สามารถงอหรือเหยียดได้อย่างปกติ อาจเป็นนิ้วเดียวหรือหลายนิ้วภาวะนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ปลอกเอ็นบริเวณข้อโคนนิ้วหนาตัวขึ้น เอ็นบวม ทำให้ปลอกรัดเอ็นมากขึ้น "
สาเหตุ
อาจเกิดจากการใช้แรงงอนิ้วมาก ๆ หรือกำนิ้วแน่นมาก ๆ ทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณปลอกหุ้มเอ็นมาก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลง หรือการเสื่อมของเซลล์ร่วมด้วย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้บ่อยร่วมกับโรคเบาหวาน รูมาตอยด์
อาการแบ่งเป็น
ระยะที่ 1 : มีอาการปวดตึง งอสะดุดบ้าง กดเจ็บบริเวณข้อโคนนิ้วทางด้านหน้ายังงอเหยียดได้เต็มที่
ระยะที่ 2 : งอนิ้วสะดุดนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
ระยะที่ 3 : งอนิ้วไม่ได้ หรืองอได้แล้วนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
การรักษา
อาการระยะที่ 1 และ 2
อาจรักษาหายได้โดย
การกินยา NSAID
แช่น้ำอุ่น
ทายา ค่อย ๆ บริหารเหยียดนิ้วทุกวัน
อาการขั้นที่ 3 และ 4
ฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าบริเวณปลอกหุ้มเอ็น ซึ่งจะต้องผสมยาชาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยปวดมาก
บริหารเหยียดนิ้ว และไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ถ้าไม่หายหรือหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก แนะนำให้ผ่าตัด เนื่องจากการฉีดยาบ่อย ๆ จะทำให้เอ็นเปื่อยและขาดได้
การผ่าตัดรักษา
ควรผ่าตัดในห้องผ่าตัด ใช้ยาชาฉีดบริเวณแผลผ่าตัด เปิดแผลด้านหน้าข้อโคนนิ้วที่จะผ่าตัด แยกหลอดประสาทออกไปด้านข้างจนเห็นปลอกหุ้มเอ็นชัดเจน ใช้ใบมีดตัดปลอกหุ้มเอ็น จากนั้นเย็บปิด
แผล ผู้ป่วยจะงอนิ้วได้ปกติทันทีโอกาสเกิดข้อแทรกซ้อนแทบไม่มีเลย
การดูแลหลังผ่าตัด
ผู้ป่วยควรกำมือบ่อย ๆ และยกมือสูง ๆ ไม่ควรให้แผลถูกน้ำ โดยทั่วไปจะตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
การป้องกันโรคนิ้วล็อค
1. ไม่หิ้วของหนักเช่น ถุงพลาสติก ตะกร้า ถังน้ำ แต่หากจำเป็นควรมีผ้าขนหนูรอง และให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือหรือใช้วิธีอุ้มประคองหรือนำใส่ รถลาก
2.ไม่ควรบิดผ้าแรงๆ เพราะจะทำให้ปลอกหุ้มเอ็น บวมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนิ้วล็อคควรซักผ้าด้วยเครื่อง
3. นักกอล์ฟที่ต้องตีแรง ตีไกล ควรหลีกเลี่ยงใช้ก้านเหล็กตีกอล์ฟขณะปวด ควรเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟเป็นก้าน Fiber ชั่วคราว
4. หลีกเลี่ยงงานที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือควบคุมเครื่องจักร เช่น ไขควง กรรไกรตัดกิ่งไม้ เลื่อย ค้อน ควรใส่ถุงมือหรือหุ้มด้ามจับให้นุ่มขึ้น
5. ควรหลีกเลี่ยงการยกของด้วยมือเปล่า และควรใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น รถลาก
6. งานที่ต้องทำต่อเนื่องนาน ๆ ควรพักมือเป็นระยะ
วิธีคลายปวดจากข้อนิ้วล็อค
1. ขยับนิ้ว+แช่มือในน้ำอุ่นตอนเช้า ๆ 5-10 นาที
2. เมื่อต้องกำ หรือจับสิ่งของแน่น ๆ ควรดัดแปลงอุปกรณ์ให้ด้ามจับนุ่มขึ้น
การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อคคือ เราต้องเข้าใจว่าโรคนิ้วล็อคเป็นความเสื่อมของร่างกายอย่างหนึ่ง เหมือนกับการที่เรามีผมหงอก เหมือนข้อเสื่อม แต่นิ้วล็อคเป็นการเสื่อมของเส้นเอ็น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักของเส้นเอ็นมากที่จนเกินไป โดยเฉพาะท่าที่ต้องกำมือแน่น ๆ เช่น การบิดผ้าให้แห้งมาก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อมือเพื่อให้กำแน่น ๆ และควรบริการกล้ามเนื้อมือและนิ้วบ่อย ๆ เพื่อเป็นการออกกำลังกายเส้นเอ็น
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือจำเป็นต้องการรักษาโรคนิ้วล็อค โรงพยาบาลนนทเวช ยินดีให้การรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางศัลยกรรมกระดูกสันหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nonthavej.co.th/Trigger-Finger.php
#โรคนิ้วล็อค, โรงพยาบาลนนทเวช
โรคนิ้วล็อค
" เป็นความผิดปกติของมือที่ไม่สามารถงอหรือเหยียดได้อย่างปกติ อาจเป็นนิ้วเดียวหรือหลายนิ้วภาวะนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ปลอกเอ็นบริเวณข้อโคนนิ้วหนาตัวขึ้น เอ็นบวม ทำให้ปลอกรัดเอ็นมากขึ้น "
สาเหตุ
อาจเกิดจากการใช้แรงงอนิ้วมาก ๆ หรือกำนิ้วแน่นมาก ๆ ทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณปลอกหุ้มเอ็นมาก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลง หรือการเสื่อมของเซลล์ร่วมด้วย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้บ่อยร่วมกับโรคเบาหวาน รูมาตอยด์
อาการแบ่งเป็น
ระยะที่ 1 : มีอาการปวดตึง งอสะดุดบ้าง กดเจ็บบริเวณข้อโคนนิ้วทางด้านหน้ายังงอเหยียดได้เต็มที่
ระยะที่ 2 : งอนิ้วสะดุดนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
ระยะที่ 3 : งอนิ้วไม่ได้ หรืองอได้แล้วนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
การรักษา
อาการระยะที่ 1 และ 2
อาจรักษาหายได้โดย
การกินยา NSAID
แช่น้ำอุ่น
ทายา ค่อย ๆ บริหารเหยียดนิ้วทุกวัน
อาการขั้นที่ 3 และ 4
ฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าบริเวณปลอกหุ้มเอ็น ซึ่งจะต้องผสมยาชาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยปวดมาก
บริหารเหยียดนิ้ว และไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ถ้าไม่หายหรือหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก แนะนำให้ผ่าตัด เนื่องจากการฉีดยาบ่อย ๆ จะทำให้เอ็นเปื่อยและขาดได้
การผ่าตัดรักษา
ควรผ่าตัดในห้องผ่าตัด ใช้ยาชาฉีดบริเวณแผลผ่าตัด เปิดแผลด้านหน้าข้อโคนนิ้วที่จะผ่าตัด แยกหลอดประสาทออกไปด้านข้างจนเห็นปลอกหุ้มเอ็นชัดเจน ใช้ใบมีดตัดปลอกหุ้มเอ็น จากนั้นเย็บปิด
แผล ผู้ป่วยจะงอนิ้วได้ปกติทันทีโอกาสเกิดข้อแทรกซ้อนแทบไม่มีเลย
การดูแลหลังผ่าตัด
ผู้ป่วยควรกำมือบ่อย ๆ และยกมือสูง ๆ ไม่ควรให้แผลถูกน้ำ โดยทั่วไปจะตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
การป้องกันโรคนิ้วล็อค
1. ไม่หิ้วของหนักเช่น ถุงพลาสติก ตะกร้า ถังน้ำ แต่หากจำเป็นควรมีผ้าขนหนูรอง และให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือหรือใช้วิธีอุ้มประคองหรือนำใส่ รถลาก
2.ไม่ควรบิดผ้าแรงๆ เพราะจะทำให้ปลอกหุ้มเอ็น บวมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนิ้วล็อคควรซักผ้าด้วยเครื่อง
3. นักกอล์ฟที่ต้องตีแรง ตีไกล ควรหลีกเลี่ยงใช้ก้านเหล็กตีกอล์ฟขณะปวด ควรเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟเป็นก้าน Fiber ชั่วคราว
4. หลีกเลี่ยงงานที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือควบคุมเครื่องจักร เช่น ไขควง กรรไกรตัดกิ่งไม้ เลื่อย ค้อน ควรใส่ถุงมือหรือหุ้มด้ามจับให้นุ่มขึ้น
5. ควรหลีกเลี่ยงการยกของด้วยมือเปล่า และควรใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น รถลาก
6. งานที่ต้องทำต่อเนื่องนาน ๆ ควรพักมือเป็นระยะ
วิธีคลายปวดจากข้อนิ้วล็อค
1. ขยับนิ้ว+แช่มือในน้ำอุ่นตอนเช้า ๆ 5-10 นาที
2. เมื่อต้องกำ หรือจับสิ่งของแน่น ๆ ควรดัดแปลงอุปกรณ์ให้ด้ามจับนุ่มขึ้น
การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อคคือ เราต้องเข้าใจว่าโรคนิ้วล็อคเป็นความเสื่อมของร่างกายอย่างหนึ่ง เหมือนกับการที่เรามีผมหงอก เหมือนข้อเสื่อม แต่นิ้วล็อคเป็นการเสื่อมของเส้นเอ็น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักของเส้นเอ็นมากที่จนเกินไป โดยเฉพาะท่าที่ต้องกำมือแน่น ๆ เช่น การบิดผ้าให้แห้งมาก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อมือเพื่อให้กำแน่น ๆ และควรบริการกล้ามเนื้อมือและนิ้วบ่อย ๆ เพื่อเป็นการออกกำลังกายเส้นเอ็น
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือจำเป็นต้องการรักษาโรคนิ้วล็อค โรงพยาบาลนนทเวช ยินดีให้การรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางศัลยกรรมกระดูกสันหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nonthavej.co.th/Trigger-Finger.php
#โรคนิ้วล็อค, โรงพยาบาลนนทเวช
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google