ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์กี่วันได้? รถเกิน 7 ปีต่อได้ไหม?
15 ธ.ค. 63 15:01 น. /
ดู 356 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ไม่ว่าจะ "ต่อภาษีรถออนไลน์ "ต่อทะเบียนรถออนไลน์" หรือ "ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์" จะต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อภาษีรถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th วันนี้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้การต่อภาษีรถประจำปีจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปมาฝากกัน
1. รถเกิน 7 ปี ต่อภาษีออนไลน์ได้ไหม?
รถยนต์และจักรยานยนต์ทุกจังหวัดทะเบียนที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด เเละมีสถานะรถ "ปกติ" หรือหมายถึงรถที่ค้างชำระภาษีรถไม่เกิน 1 ปี, รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี, รถที่ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ หรือรถที่ไม่ถูกอายัดโดยระบบงานของกรมการขนส่งทางบก สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถจักรยานยนต์ (รย.12) อายุรถไม่เกิน 5 ปี
ทั้งนี้ หากเป็นรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี อายุรถเกิน หรือน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม ให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือ ตรอ. และยื่นชำระที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาเท่านั้น รวมถึงหากเป็นรถที่ติดตั้งแก๊สให้ดำเนินการตรวจสภาพถังแก๊สตามประกาศกรมฯ และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาเท่านั้นเช่นกัน
2. ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ ทำอย่างไร
ผู้ยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ได้จาก 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) ซื้อจากในระบบ หรือ 2) ซื้อผ่านผู้ให้บริการภายนอก เช่น บริษัทประกันภัย ตัวแทน หรือนายหน้าโดยต้องกรอกข้อมูลบริษัทประกันภัย เลขที่กรมธรรม์ และวันสิ้นสุดอายุความคุ้มครองให้ถูกต้องตรงตามความจริง โดยข้อมูล พ.ร.บ. ที่ระบุจะถูกตรวจสอบ และบันทึกเป็นหลักฐานทางกฎหมาย หากระบุข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นความจริง จะมีผลต่อความคุ้มครองของกรมธรรม์ ทั้งนี้ วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้นอายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.
3. ต่อภาษีรถออนไลน์ราคาเท่าไร
อัตราค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ของรถเเต่ละคันจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ ปีใช้งาน ความจุ เเละปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถเเบ่งการจัดเก็บภาษีรถได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) การจัดเก็บภาษีรถตามความจุกระบอกสูบ (ซีซี), 2) การจัดเก็บภาษีรถเป็นรายคัน, 3) การจัดเก็บภาษีรถตามน้ำหนัก และ 4) การจัดเก็บภาษีรถตามประเภทของรถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า ตลอดจนมีค่าธรรมเนียมการบริการต่อภาษีรถออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง
4. ขั้นตอนการต่อภาษีรถออนไลน์ มีอะไรบ้าง
1) เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
2) ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน (สำหรับสมาชิกใหม่)
3) Log-in เข้าสู่ระบบ
4) ยื่นชำระภาษีรถประจำปี ที่เมนู "ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี"
5) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี
6) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) หรือสามารถซื้อ พ.ร.บ. ได้จากระบบ
7) เลือกช่องทางการชำระเงินเพียง 1 ช่องทาง
8) กรณีชำระเงินยังไม่สำเร็จ/ยังไม่ได้ชำระเงิน สามารถเปลี่ยนช่องทางการชำระเงิน ได้ที่เมนู "ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน"
5. ต่อภาษีรถออนไลน์กี่วันได้
ผู้ยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู "ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน" ในหน้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
กรณีที่ยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ตามขั้นตอนปกติ ไม่พบกรณีผิดพลาดหรือต้องตรวจสอบเพิ่มเติม กรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และสมุดกรมธรรม์ พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ตามที่อยู่จัดส่งเอกสารที่กรอกผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ไม่เกิน 5 วันทำการ
6. รถขาดต่อภาษีประจำปี โดนปรับเท่าไร
รถที่ไม่ต่อภาษีหรือต่อภาษีรถล่าช้าจะมีค่าปรับร้อยละหนึ่งต่อเดือน และหากไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนรถต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเปลี่ยนชื่อ การแจ้งเปลี่ยนสี การแก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น ทำให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากในภายหลัง เจ้าของรถจึงควรดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีให้เรียบร้อยเป็นปัจจุบัน
กรณีที่หยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ในทุกกรณี ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ หรือสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ โดยใช้แบบคำขอแจ้งการไม่ใช้ พร้อมนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคืน โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมาด้วย ได้แก่ คู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถไม่มาดำเนินการเอง) เพื่อไม่ให้มีภาระต้องชำระภาษีประจำปี
นอกจากการต่อภาษีรถออนไลน์จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว การต่อภาษีรถประจำปีอย่างต่อเนื่องจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับความคุ้มครองพื้นฐานจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการสัญจร ซึ่งส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างขับขี่มากขึ้น เเต่จะปลอดภัยเเละอุ่นใจมากยิ่งขึ้นด้วย
ประกันรถยนต์ คลิก https://www.smk.co.th/premotor.aspx
รถยนต์และจักรยานยนต์ทุกจังหวัดทะเบียนที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด เเละมีสถานะรถ "ปกติ" หรือหมายถึงรถที่ค้างชำระภาษีรถไม่เกิน 1 ปี, รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี, รถที่ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ หรือรถที่ไม่ถูกอายัดโดยระบบงานของกรมการขนส่งทางบก สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) อายุรถไม่เกิน 7 ปี และน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถจักรยานยนต์ (รย.12) อายุรถไม่เกิน 5 ปี
ทั้งนี้ หากเป็นรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี อายุรถเกิน หรือน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม ให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือ ตรอ. และยื่นชำระที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาเท่านั้น รวมถึงหากเป็นรถที่ติดตั้งแก๊สให้ดำเนินการตรวจสภาพถังแก๊สตามประกาศกรมฯ และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาเท่านั้นเช่นกัน
2. ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ ทำอย่างไร
ผู้ยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ได้จาก 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) ซื้อจากในระบบ หรือ 2) ซื้อผ่านผู้ให้บริการภายนอก เช่น บริษัทประกันภัย ตัวแทน หรือนายหน้าโดยต้องกรอกข้อมูลบริษัทประกันภัย เลขที่กรมธรรม์ และวันสิ้นสุดอายุความคุ้มครองให้ถูกต้องตรงตามความจริง โดยข้อมูล พ.ร.บ. ที่ระบุจะถูกตรวจสอบ และบันทึกเป็นหลักฐานทางกฎหมาย หากระบุข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นความจริง จะมีผลต่อความคุ้มครองของกรมธรรม์ ทั้งนี้ วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้นอายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.
3. ต่อภาษีรถออนไลน์ราคาเท่าไร
อัตราค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ของรถเเต่ละคันจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ ปีใช้งาน ความจุ เเละปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถเเบ่งการจัดเก็บภาษีรถได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) การจัดเก็บภาษีรถตามความจุกระบอกสูบ (ซีซี), 2) การจัดเก็บภาษีรถเป็นรายคัน, 3) การจัดเก็บภาษีรถตามน้ำหนัก และ 4) การจัดเก็บภาษีรถตามประเภทของรถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า ตลอดจนมีค่าธรรมเนียมการบริการต่อภาษีรถออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง
4. ขั้นตอนการต่อภาษีรถออนไลน์ มีอะไรบ้าง
1) เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
2) ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน (สำหรับสมาชิกใหม่)
3) Log-in เข้าสู่ระบบ
4) ยื่นชำระภาษีรถประจำปี ที่เมนู "ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี"
5) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี
6) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) หรือสามารถซื้อ พ.ร.บ. ได้จากระบบ
7) เลือกช่องทางการชำระเงินเพียง 1 ช่องทาง
8) กรณีชำระเงินยังไม่สำเร็จ/ยังไม่ได้ชำระเงิน สามารถเปลี่ยนช่องทางการชำระเงิน ได้ที่เมนู "ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน"
5. ต่อภาษีรถออนไลน์กี่วันได้
ผู้ยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู "ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน" ในหน้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
กรณีที่ยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ตามขั้นตอนปกติ ไม่พบกรณีผิดพลาดหรือต้องตรวจสอบเพิ่มเติม กรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และสมุดกรมธรรม์ พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ตามที่อยู่จัดส่งเอกสารที่กรอกผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ไม่เกิน 5 วันทำการ
6. รถขาดต่อภาษีประจำปี โดนปรับเท่าไร
รถที่ไม่ต่อภาษีหรือต่อภาษีรถล่าช้าจะมีค่าปรับร้อยละหนึ่งต่อเดือน และหากไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนรถต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเปลี่ยนชื่อ การแจ้งเปลี่ยนสี การแก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น ทำให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากในภายหลัง เจ้าของรถจึงควรดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีให้เรียบร้อยเป็นปัจจุบัน
กรณีที่หยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ในทุกกรณี ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ หรือสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ โดยใช้แบบคำขอแจ้งการไม่ใช้ พร้อมนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคืน โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมาด้วย ได้แก่ คู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถไม่มาดำเนินการเอง) เพื่อไม่ให้มีภาระต้องชำระภาษีประจำปี
นอกจากการต่อภาษีรถออนไลน์จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว การต่อภาษีรถประจำปีอย่างต่อเนื่องจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับความคุ้มครองพื้นฐานจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการสัญจร ซึ่งส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างขับขี่มากขึ้น เเต่จะปลอดภัยเเละอุ่นใจมากยิ่งขึ้นด้วย
ประกันรถยนต์ คลิก https://www.smk.co.th/premotor.aspx
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google