ปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถแก้ไขได้ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม
19 ส.ค. 64 17:37 น. /
ดู 6,104 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#รักษาข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อมปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่กระดูกอ่อนผิวข้อที่เป็นเหมือนเบาะรองรับน้ำหนักในข้อได้สูญเสียคุณสมบัติและเกิดการยุบตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ด้วยเหตุนี้ กระดูกข้อต่อจึงเกิดการเสียดสีกันขณะเคลื่อนไหวจนเกิดการสึกกร่อน ผิวข้อบางลง ไม่เรียบ และอาจมีเสียงดังในข้อ รวมถึงมีอาการเจ็บปวดเมื่อใช้งานข้อเข่าหรือเมื่อเคลื่อนไหว ถ้าหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาหรือได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก็อาจเกิดอาการข้อเข่าอักเสบรุนแรงจนมีน้ำที่ด้อยคุณภาพมากขึ้นในข้อเข่า ทำให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ภาวะข้อเข่าเสื่อมยังอาจส่งผลให้ข้อเข่าผิดรูปได้เนื่องจากข้อเข่าผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานหรือผ่านการใช้งานอย่างหนัก เช่น ผู้สูงอายุ นักกีฬาบางประเภท หรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าคนปกติได้ ซึ่งในการรักษาข้อเข่าเสื่อมก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีรวมถึงปัญหาข้อเข่าเสื่อมที่รักษาได้นั้นมีดังนี้
1. การปรับพฤติกรรมและการออกกำลังกาย
เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยพยุงข้อเข่า และถ่ายเทน้ำหนักจากข้อเข่ามาที่กล้ามเนื้อได้ดี ทำให้ข้อเข่าไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป แนะนำให้ผู้สูงวัยออกกำลังกายประเภทที่มีแรงกระแทกต่อข้อเข่าน้อย (Low-Impact Exercise) เช่น ว่ายน้ำ การปั่นจักรยานอยู่กับที่ การเต้นแอโรบิกที่ไม่มีท่ากระโดด การเต้นแอโรบิกในน้ำ หรือการเดิน เป็นต้น
แต่หากท่านยังอายุไม่มากนัก หรือออกกำลังกายเป็นประจำ ก็อาจจะเลือกเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้ง การเดินเร็ว การเต้นแอโรบิกได้ หรือการออกกำลังแบบบอดี้เวทเทรนนิ่ง (Body Weight Training) คลิกดูตัวอย่างท่าออกกำลังกายเพื่อป้องกันอาการปวดเข่าได้ ที่นี่
2. การรักษาด้วยการใช้ยา
วิธีนี้แพทย์จะพิจารณาให้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ และ/หรือยาบำรุงข้อเข่าแก่ผู้ป่วย เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) กลูโคซามีน(Glucosamine) ไดอะเซอรีน (Diacerein) ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เป็นต้น เพื่อลดอาการปวดข้อเข่าที่รบกวนชีวิตประจำวันของผู้ป่วย อาจจะเป็นแบบเม็ด หรือแบบฉีดก็ได้ ทั้งนี้ อาจรวมไปถึงการฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ในบางกรณีที่จำเป็น
3. การทำกายภาพบำบัด
เพื่อบรรเทาอาการปวดบริเวณข้อเข่า เช่น การทำอัลตราซาวด์ การใช้เลเซอร์รักษา การรักษาด้วยคลื่นสั้น (Shortwave Therapy) การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulation) การประคบด้วยแผ่นร้อนและแผ่นเย็น รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจรวมไปถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าด้วยเช่นกัน
4. การรักษาทางชีวภาพ หรือ Biological Therapy
ซึ่งเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาอาการผิดปกติของกระดูกอ่อนและน้ำเลี้ยงข้อเข่า โดยสามารถทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
4.1) การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม (Hyaluronic acid)
ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับเป็นสารหล่อชนิดหนึ่งเข้าไป เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดอาการฝืดตึงของข้อเข่า โดยมุ่งเน้นรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม ด้วยการเพิ่มน้ำหล่อลื่นและกระตุ้นสารตั้งต้นผิวข้อเข่า เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม และรักษาด้วยยาแล้วไม่หาย แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระยะรุนแรงถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม ในด้านผลการรักษา จะเห็นผลจากประสิทธิภาพจริงที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรืออาจจะนานได้ถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคเป็นรายๆ ไป แต่หากมีภาวะข้อเข่าเสื่อมมากๆ แล้วนั้น การรักษาอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
นอกจากการใช้กับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ยังสามารถใช้ร่วมกับการผ่าตัดผิวข้อเข่าเทียมได้ด้วย เพื่อช่วยปรับสมดุลน้ำในข้อเข่าหลังการผ่าตัดและช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยให้สามารถกลับมาใช้ข้อเข่าที่บาดเจ็บได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้มีข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการใช้อยู่ จึงควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อก่อนจะดีที่สุด
4.2) การฉีด Platelet Rich Plasma (PRP)
หรือสารสกัดเกล็ดเลือด จากเลือดของผู้ป่วยเองที่มีความเข้มข้นของ growth factor หรือสารที่ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ช่วยให้บริเวณที่มีการบาดเจ็บดีขึ้น เป็นวิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงต่ำ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากเลือดของผู้ป่วยเอง เหมาะกับผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีการบาดเจ็บของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่า
นอกจากวิธีในการรักษาข้อเข่าเสื่อมตามด้านบนนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นดูแลตนเองให้ดี ๆ ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารการกิน รวมไปจนถึงการเลือกทานอาหารควรเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ทานพืชผัก ผลไม้อย่างเป็นประจำ ทานปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ เต้าหู้ และพวกถั่วต่าง ๆ ถั่วแดง ถั่วเขียว เพราะจะทำให้ได้ทั้งโปรตีนและกรดไขมันที่จำเป็น ช่วยเสริมข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้นค่ะ นอกจากนี้ก็ควรดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย และดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 8 แก้วต่อวันด้วยนะคะ
#รักษาข้อเข่าเสื่อม
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google