คริส กับความเป็นทาสแมว ที่ต้องนอนด้วยกันทุกวัน และเผยมุมอ่อนไหวของการเป็นพิธีกรที่อินไปกับผู้เข้าแข่งขัน

รายการ Daily Show EP.65 เรียกได้ว่าถูกใจยูยู่สุดๆ ไปเลย เมื่อ 2  พิธีกร เกลือ กิตติ และ นุ้ย สุจิรา
ได้คว้าตัว คริส พีรวัส มาแชร์ประสบการณ์เรื่องราวของการเป็นทาสแมว รวมไปถึงพาร์ทของการเป็น
เป็นพิธีกรที่น่าจับตามอง ที่เบื้องหลังทำการบ้านหนักมาก แสดงให้เห็นถึงการไม่หยุดพัฒนาตัวเองของ
หนุ่มคนนี้ที่ไปสุดในทุกสายงานในวงการเลย


พี่เกลือที่เป็นพิธีกรทำการบ้านมาแล้วทักคริสได้ข่าวว่าเป็นทาสแมวจนไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยเหรอ
เจ้าตัวบอก ใช่ครับ ตาอิดโรยแมวเพิ่งคลอดเมื่อคืนเลย ต้องเฝ้าระวังไว้ มีคนมาเฝ้าเวรตลอด เพราะน้อง(มัฟฟิน)
เขาพันธุ์ทาง เราจะไม่รู้ว่าเวลาน้องที่น้องเขาคลอดเขาคลอดเองได้ไหม มดลูกเขาจะบีบรึเปล่า ดูไว้ตั้งแต่วันที่ 29-30 เม.ย. ซึ่งหมอบอกว่าต้องไม่เกินวันที่ 1 พ.ค. วันที่ 1 ก็ไม่คลอดเลยพาไปหาหมอ สรุปคือ มัฟฟินไม่มีน้ำนม และไม่มีแรง
เบ่ง สุดท้ายต้องผ่าคลอด ตอนนี้ก็ปลอดภัยดี มี 2 ตัว




ติดแมวห่วงแมวถึงขั้น เหมือนมีจะต้องไปถ่ายรายการ The Golden Song จองโรงแรมอะไรไว้เรียบร้อย
กะจะค้างเพราะเลิกงานดึกแล้ววันถัดมาต้องกลับมาทำงานเช้า สรุปเลิกงานกลับไปเก็บของที่โรงแรมเสียเวลากว่าเดิมแล้วกลับบ้านไปหาแมว เพราะพลูโตนอนกับคริสทุกคืน ไม่ว่าคริสจะนอนก่อนหรือหายไปไหน แต่พอคริสขึ้นเตียงก็มาละมาตะกรุบ และที่ชอบแมวสฟิงซ์เพราะเคยถ่ายแบบด้วยกัน พอได้เล่นด้วยก็หลง เลยซื้อจากฟาร์มที่มาถ่าย แมวพันธุ์นี้เหมือนทุกคนจะไม่ค่อยชอบรูปลักษณ์ภายนอกเขา แต่เขาจะได้จิตใจมา เขาจะติดคนมาก




พูดถึงลูกชายที่ติดคูมพ่อไปแล้ว ด้านลูกสาวอย่างมัฟฟิน ก็ได้ชื่อว่าเป็นแมวเรียกทรัพย์
เพราะขาสั้นใครเจอก็จะชอบมาก และก็นำพาพรีเซ็นเตอร์มาให้ด้วย




ลูกๆ ให้โชคแล้ว คุณพีเองก็เคยให้โชคกับคนรอบข้างเหมือนกัน
แบบเคยมี ช่วงนึงคนรอบข้างผจก. พี่ๆ AE บอกจะซื้อหวย ขอเลขหน่อย คริสเลยบอกช่วงนี้อยู่ๆ ก็สะดุ้งตื่น 7 โมงครึ่ง ทุกวันเลย ก็ไปซื้อ 730 ถูกสามตัวเลย พอพี่เกลือถามช่วงนี้ตื่นกี่่โมงไม่ค่อยได้นอนก็คือจบเลย 55555555




มาพูดถึงบทบาทการเป็นพิธีกรกันบ้าง ใน The Golden Song ตอนนั้นซีซั่น 3 ยังไม่ได้มาเจอพี่เกลือ
แล้วเรายังไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไร ก็ไปดูในยูทูบทำการบ้านว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วแนวเพลงก็ไกลตัวคริสนิดนึง
พอมาเจอพี่เกลือทุกอย่างมันสบายขึ้น คริสจะติดคิวการ์ดเวลามีคิวการ์ดอยู่หลังกล้องตอนดำเนินรายการไปถ้า
มองไม่เห็นหรือคิวการ์ดหายไปก็คือแย่ละต้องคัต ก็จะมีพี่เกลือคอยบอกว่า อันนี้เราเริ่มอ่านแล้วนะ เข้าใจใหม่
คีย์เวิร์ดคืออะไร เล่าให้พี่ฟังก่อนจะบอกอะไร บอกกติกาใช่ไหม เริ่มเลย จะรู้สึกเหมือนมีครูมีโค้ชตลอด
จริงๆ อยู่กับพี่เกลือไม่กดดันเลยแต่พอไปเจอแม่เม้าท์ เรื่องอักขระความถูกต้อง พูดคำว่า มหาลัย ไม่ได้ต้องพูดว่า มหาวิทยาลัย เท่านั้น แต่แม่เม้าท์ไม่ดุ พอคัตปุ๊บก็จะบอกคริสมานี่หน่อย เพลง ไม่ใช่ เพง เหมือนฝึกคำควบกล้ำ




และจัดไปกับแบบทดสอบที่ให้ลองออกเสียงให้ฟังแบบชัดถ้อยชัดคำในรายการ
จนโดนพี่เกลือชมว่า มีพัฒนาการและพูดชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึง่เป็นสิ่งสำคัญที่พิธีกรต้องมี




ส่วนความประทับใจในพาร์ทของการเป็นพิธีกร คริสชอบตอนได้เจอผู้เข้าแข่งขัน
รู้สึกว่ามีอะไรที่ต้องเรียนรู้จากเขาอีกมากเลยไม่ว่าจะเป็น การร้อง การตอบคำถาม และเวลาได้ฟังคณะ
กรรมการพูดอะไรบางอย่างกับผู้เข้าแข่งขัน บางอย่างมันตรงจุดกับเรา เรื่องพูดไม่ชัดเราก็โดน หรือวิธีการทำงานแพสชั่นบางอย่างคริสได้จากตรงนั้น สุดท้ายแล้วเราแสดงละครอย่างเดียว เราจะเจอคนที่มีความสามารถในการแสดงละครจริงๆ แต่พอทำพิธีกรเจอเยอะมาก ทั้งการพูด การเล่นตลก Deep talk ต่างๆ ซึ่งไม่เคยได้เจอเลย




ซึ่งตรงนี้พี่เกลือถึงกับออกปากชมเลยอีกหนึ่งเสน่ห์การเป็นพิธีกรของคริสคือ
อินกับผู้เข้าแข่งขันและสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มีแบบพอถึงช่วงประกาศผลที่เห็นว่าตกรอบ
เขาก็ไม่กล้าอ่าน กล้องกำลังรันอยู่ เขามาบอกผม ขอโทษครับอาจารย์ อ่านให้หน่อย ผมไม่ไหว
บ่อยครั้งที่เห็นเขาร้องไห้กับผู้เข้าแข่งขัน เสียใจ ดีใจ ซึ่งเป็นข้อดีคือคุณเข้าอกเข้าใจแขกรับเชิญ
ที่อยู่ในรายการ 




#คริสพีรวัส