ถ้าเปลี่ยนจากยานยนต์พลังงานน้ำมันเป็นพลังงานไฟฟ้า จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้เท่าไหร่
25 มิ.ย. 65 20:18 น. /
ดู 2,326 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#พลังงานบริสุทธิ์ #ยานยนต์ไฟฟ้า #สังคมคาร์บอนต่ำ #ยานยนต์พลังงานน้ำมัน #ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
เมื่อเทรนด์โลกให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เห็นได้ชัดจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของยานยนต์ไฟฟ้าออกมามากขึ้น
สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนผ่านพลังงานจากน้ำมันมาสู่พลังงานไฟฟ้าค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทั้งด้านสถานีชาร์จ และการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จ
ในภาคขนส่งนั้นต้องยอมรับว่าไทย ยังมีการใช้รถโดยสารจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีเรามีการจดทะเบียนรถโดยสารเพื่อการพาณิชย์ในแต่ละปีเฉลี่ย ประมาณ 10,000 คัน
โดยถ้าเราเริ่มจากการเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า จะช่วยให้สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission Reduction) ได้ถึง 220,454 ตันต่อปี
และลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลได้กว่า 233,333,333.33 ลิตรต่อปี เมื่อเทียบกับโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันดีเซลซึ่งจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 629,701.80 ตันต่อปี
(โดยคำนวนคำนวนจากจำนวนรถ 10,000 คัน ระยะทางการวิ่งรถ 200 กิโลเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 350 วันเท่ากัน)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง EA มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างศักยภาพทางด้านพลังงานสะอาดและด้านพลังงานไฟฟ้า โดยมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ตลอดจนเป็นผู้นำด้านสถานีอัดประจุ เพื่อที่จะยกระดับการเดินทางสมัยใหม่ให้มีความสะดวก สบาย ช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมทั้งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย มีรายได้สูงขึ้น ช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้าม Middle income Trap ไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพและมีความยั่งยืน
#สังคมคาร์บอนต่ำ
#ยานยนต์พลังงานน้ำมัน
#ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
#ยานยนต์ไฟฟ้า
#พลังงานบริสุทธิ์
#ก๊าซเรือนกระจก
#EA
ในภาคขนส่งนั้นต้องยอมรับว่าไทย ยังมีการใช้รถโดยสารจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีเรามีการจดทะเบียนรถโดยสารเพื่อการพาณิชย์ในแต่ละปีเฉลี่ย ประมาณ 10,000 คัน
โดยถ้าเราเริ่มจากการเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า จะช่วยให้สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission Reduction) ได้ถึง 220,454 ตันต่อปี
และลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลได้กว่า 233,333,333.33 ลิตรต่อปี เมื่อเทียบกับโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันดีเซลซึ่งจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 629,701.80 ตันต่อปี
(โดยคำนวนคำนวนจากจำนวนรถ 10,000 คัน ระยะทางการวิ่งรถ 200 กิโลเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 350 วันเท่ากัน)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง EA มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างศักยภาพทางด้านพลังงานสะอาดและด้านพลังงานไฟฟ้า โดยมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ตลอดจนเป็นผู้นำด้านสถานีอัดประจุ เพื่อที่จะยกระดับการเดินทางสมัยใหม่ให้มีความสะดวก สบาย ช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมทั้งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย มีรายได้สูงขึ้น ช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้าม Middle income Trap ไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพและมีความยั่งยืน
#สังคมคาร์บอนต่ำ
#ยานยนต์พลังงานน้ำมัน
#ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
#ยานยนต์ไฟฟ้า
#พลังงานบริสุทธิ์
#ก๊าซเรือนกระจก
#EA
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google