หลายข้อสงสัยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเมืองไทยยังไม่สดใสเท่าที่ควร
27 พ.ค. 66 15:57 น. /
ดู 1,887 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
หลายข้อสงสัยนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเมืองไทยยังไม่สดใสเท่าที่ควร
ไขข้อข้องใจ? ทำไม'เมืองไทย' ยังครองใจนักท่องเที่ยวจีน
ที่มา https://www.naewna.com/inter/733395
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 South China Morning Post (SCMP) นสพ.ท้องถิ่นของฮ่องกง เผยแพร่บทความ Why Thailand is attracting more Chinese tourists post-pandemic than Japan or Australia ไขข้อข้องใจว่าเหตุใดเมื่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลดระดับความรุนแรงลงจนมนุษยชาติกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ประเทศไทยจึงยังครองใจชาวจีนในการเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยว เหนือคู่แข่งสำคัญอย่างญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย
บทความซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 เขียนโดย มาร์ค ฟูตเตอร์ (Mark Footer) ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ SCMP เริ่มต้นด้วยการอ้างรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อต้นเดือน พ.ค. 2566 ที่ระบุว่า มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านคน โดยคาดการณ์รวมช่วงเทศกาลหยุดยาวของประเทศและช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 เป็นต้นไป
เช่นเดียวกับ นสพ.บางกอกโพสต์ สื่อท้องถิ่นฉบับภาษาอังกฤษในไทย ระบุว่า ช่วงเดือน ต.ค. 2565-เม.ย. 2566 มีเที่ยวบินจากจีนมาไทยมากถึง 12,805 เที่ยว โดย ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์. (Nopasit Chakpitak) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ตัวเลขรายเดือนประมาณ 5,330 เที่ยวบินในเดือน พ.ค. 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,340 เที่ยวบินในเดือน ก.ย. 2566
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ร้อยละ 60 หรือกว่านั้น ซึ่งยังคงน้อยกว่าในปี 2562 อันเป็นปีสุดท้ายก่อนที่โลกจะเข้าสู่วิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ความสม่ำเสมอที่เพิ่มขึ้นของเที่ยวบินจากจีนได้เพิ่มสถิติของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในวันที่ 20 พ.ค. 2566 ประเทศไทยประกาศว่าได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแล้ว 9.47 ล้านคน โกยเม็ดเงินเข้าประเทศไปถึง 3.91 แสนล้านบาท
หันไปมองเพื่อนบ้านทางตะวันออกของจีนอย่างญี่ปุ่น เมื่อแดนอาทิตย์อุทัยกำลังดิ้นรนกับความพยายามกลับไปอยู่ในจุดเดิม ณ ปี 2562 ที่มีชาวจีนเดินทางไปเที่ยวเกือบ 10 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในญี่ปุ่นความดึงดูดใจของกรุงโตเกียว เมืองโอซากา และจังหวัดโอกินาวา อาจยังคงแข็งแกร่งเหมือนในอดีตช่วงก่อนโควิด-19 แต่ญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ใน 60 ประเทศที่แดนมังกรเห็นว่าคู่ควรกับการท่องเที่ยว
ประเทศที่ไกลออกไปทางทิศใต้อย่างออสเตรเลียก็เช่นกัน ในเดือน ก.พ. 2566 เมื่อจีนกลับมาเปิดประเทศและอนุญาตให้พลเมืองออกไปเที่ยวในต่างแดน มีชาวจีนเดินทางไปเยือนแดนจิงโจ้เพียง 40,430 คน คิดเป็นเพียงร้อยละ 20 ของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดียวกันของปี 2562 และในเดือน ก.ย. 2566 ตัวเลขคาดการณ์จำนวนเที่ยวบินของ 2 ชาติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศออสเตรเลีย ก็ยังคงอยู่ที่เพียงร้อยละ 51 ของปี 2562
การไม่มีสถานะปลายทางที่ได้รับการอนุมัติ (ADS) เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ ที่รอคอยการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ผู้ที่ไม่มีข้อตกลง ADS จะไม่ได้รับอนุญาตให้รับกรุ๊ปทัวร์จีนหรือโปรโมตจุดหมายปลายทางในประเทศจีนเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 คลี่คลาย รัฐบาลแดนมังกรได้เผยแพร่บัญชีรายชื่อประเทศ 2 กลุ่ม ที่เห็นว่าเหมาะสมสำหรับพลเมืองของตนที่จะไปเยือน โดยไทยอยู่ในกลุ่ม 20 ประเทศแรกที่ทางการจีนประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 ร่วมกับอินโดนีเซีย ศรีลังกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ รัสเซีย แอฟริกาใต้
บัญชีรายชื่อประเทศชุดที่ 2 ถูกประกาศเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 อีก 40 ประเทศ ซึ่งรวมถึงเวียดนามและเนปาล ขณะที่ประเทศในทวีปยุโรปอย่างฝรั่งเศสและสเปนก็ติดในรายชื่อกลุ่มนี้ด้วย ถึงกระนั้น นอกเหนือจากการรับรู้ ADS ในช่วงต้นแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสดใสเมื่อประเทศไทยกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง ดังที่ จางหยู (Zhang Yu) มัคคุเทศก์ที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจองทัวร์ของชาวจีนถูกยกเลิกเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
รายงานของสื่อฮ่องกงอ้างถึงเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับชาวจีน อาทิ ข่าวนักท่องเที่ยวจีนถูกแทงกว่า 20 แผลเสียชีวิตที่ห้องพักในรีสอร์ท ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย หรือข่าวชาวจีน 3 คนถูกคนร้ายปล้น ในเดือน พ.ค. 2566 ข่าวเหล่านี้ถูกนำไปแชร์ต่อทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของชาวจีนอย่างวีแชต (WerChat) ทั้งนี้ ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจีนกว่า 500,000 คนมาเยือนไทยในไตรมาสแรกของปี 2566 อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยว 237,000 คนในเดือน เม.ย. 2566 นั้นต่ำกว่าที่คาดไว้
#นักท่องที่ยวจีน
#เที่ยวเมืองไทย
#ความปลอดภัย
ไขข้อข้องใจ? ทำไม'เมืองไทย' ยังครองใจนักท่องเที่ยวจีน
ที่มา https://www.naewna.com/inter/733395
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 South China Morning Post (SCMP) นสพ.ท้องถิ่นของฮ่องกง เผยแพร่บทความ Why Thailand is attracting more Chinese tourists post-pandemic than Japan or Australia ไขข้อข้องใจว่าเหตุใดเมื่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลดระดับความรุนแรงลงจนมนุษยชาติกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ประเทศไทยจึงยังครองใจชาวจีนในการเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยว เหนือคู่แข่งสำคัญอย่างญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย
บทความซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 เขียนโดย มาร์ค ฟูตเตอร์ (Mark Footer) ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ SCMP เริ่มต้นด้วยการอ้างรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อต้นเดือน พ.ค. 2566 ที่ระบุว่า มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านคน โดยคาดการณ์รวมช่วงเทศกาลหยุดยาวของประเทศและช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 เป็นต้นไป
เช่นเดียวกับ นสพ.บางกอกโพสต์ สื่อท้องถิ่นฉบับภาษาอังกฤษในไทย ระบุว่า ช่วงเดือน ต.ค. 2565-เม.ย. 2566 มีเที่ยวบินจากจีนมาไทยมากถึง 12,805 เที่ยว โดย ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์. (Nopasit Chakpitak) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ตัวเลขรายเดือนประมาณ 5,330 เที่ยวบินในเดือน พ.ค. 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,340 เที่ยวบินในเดือน ก.ย. 2566
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ร้อยละ 60 หรือกว่านั้น ซึ่งยังคงน้อยกว่าในปี 2562 อันเป็นปีสุดท้ายก่อนที่โลกจะเข้าสู่วิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ความสม่ำเสมอที่เพิ่มขึ้นของเที่ยวบินจากจีนได้เพิ่มสถิติของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในวันที่ 20 พ.ค. 2566 ประเทศไทยประกาศว่าได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแล้ว 9.47 ล้านคน โกยเม็ดเงินเข้าประเทศไปถึง 3.91 แสนล้านบาท
หันไปมองเพื่อนบ้านทางตะวันออกของจีนอย่างญี่ปุ่น เมื่อแดนอาทิตย์อุทัยกำลังดิ้นรนกับความพยายามกลับไปอยู่ในจุดเดิม ณ ปี 2562 ที่มีชาวจีนเดินทางไปเที่ยวเกือบ 10 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในญี่ปุ่นความดึงดูดใจของกรุงโตเกียว เมืองโอซากา และจังหวัดโอกินาวา อาจยังคงแข็งแกร่งเหมือนในอดีตช่วงก่อนโควิด-19 แต่ญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ใน 60 ประเทศที่แดนมังกรเห็นว่าคู่ควรกับการท่องเที่ยว
ประเทศที่ไกลออกไปทางทิศใต้อย่างออสเตรเลียก็เช่นกัน ในเดือน ก.พ. 2566 เมื่อจีนกลับมาเปิดประเทศและอนุญาตให้พลเมืองออกไปเที่ยวในต่างแดน มีชาวจีนเดินทางไปเยือนแดนจิงโจ้เพียง 40,430 คน คิดเป็นเพียงร้อยละ 20 ของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดียวกันของปี 2562 และในเดือน ก.ย. 2566 ตัวเลขคาดการณ์จำนวนเที่ยวบินของ 2 ชาติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศออสเตรเลีย ก็ยังคงอยู่ที่เพียงร้อยละ 51 ของปี 2562
การไม่มีสถานะปลายทางที่ได้รับการอนุมัติ (ADS) เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ ที่รอคอยการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ผู้ที่ไม่มีข้อตกลง ADS จะไม่ได้รับอนุญาตให้รับกรุ๊ปทัวร์จีนหรือโปรโมตจุดหมายปลายทางในประเทศจีนเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 คลี่คลาย รัฐบาลแดนมังกรได้เผยแพร่บัญชีรายชื่อประเทศ 2 กลุ่ม ที่เห็นว่าเหมาะสมสำหรับพลเมืองของตนที่จะไปเยือน โดยไทยอยู่ในกลุ่ม 20 ประเทศแรกที่ทางการจีนประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 ร่วมกับอินโดนีเซีย ศรีลังกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ รัสเซีย แอฟริกาใต้
บัญชีรายชื่อประเทศชุดที่ 2 ถูกประกาศเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 อีก 40 ประเทศ ซึ่งรวมถึงเวียดนามและเนปาล ขณะที่ประเทศในทวีปยุโรปอย่างฝรั่งเศสและสเปนก็ติดในรายชื่อกลุ่มนี้ด้วย ถึงกระนั้น นอกเหนือจากการรับรู้ ADS ในช่วงต้นแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสดใสเมื่อประเทศไทยกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง ดังที่ จางหยู (Zhang Yu) มัคคุเทศก์ที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจองทัวร์ของชาวจีนถูกยกเลิกเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
รายงานของสื่อฮ่องกงอ้างถึงเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับชาวจีน อาทิ ข่าวนักท่องเที่ยวจีนถูกแทงกว่า 20 แผลเสียชีวิตที่ห้องพักในรีสอร์ท ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย หรือข่าวชาวจีน 3 คนถูกคนร้ายปล้น ในเดือน พ.ค. 2566 ข่าวเหล่านี้ถูกนำไปแชร์ต่อทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของชาวจีนอย่างวีแชต (WerChat) ทั้งนี้ ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจีนกว่า 500,000 คนมาเยือนไทยในไตรมาสแรกของปี 2566 อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยว 237,000 คนในเดือน เม.ย. 2566 นั้นต่ำกว่าที่คาดไว้
#นักท่องที่ยวจีน
#เที่ยวเมืองไทย
#ความปลอดภัย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google