สัมผัสได้ด้วยใจในเรื่องรักฉบับใหม่ Yes or No 2.5

"Yes or No 2.5 กลับมา...เพื่อรักเธอ" เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความรักฉบับ "Yes or No" ที่เคยทำมาแล้วถึง 2 ภาคด้วยกันคือ "Yes or No อยากรักก็รักเลย" และ "Yes or No 2 รักไม่รัก...อย่ากั๊กเลย" ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ชาวไทยและต่างประเทศอย่างล้นหลาม สำหรับครั้งนี้ได้ผู้กำกับมากฝีมือ "ทิม - กิรติ นาคอินทนนท์" มาถ่ายทอดเรื่องรักครั้งใหม่ที่เกิดขึ้น นำแสดงโดย "ติ๊นา - ศุภนาฏ จิตตลีลา" สาวเท่มาดน่ารักที่แจ้งเกิดมาจากภาพยนตร์ของ Yes or No ร่วมด้วยเหล่านักแสดงใหม่ "ปีเก้ - พิมพกานต์ บางชะวงษ์" "นัน - สุนันทา ยูรนิยม" และ "หงหยก - จันษกร กิตติวัฒนากร"

งานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง Yes or No 2.5 กลับมา...เพื่อรักเธอ ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดาภิเษก โดยสาว หงหยก เปิดงานด้วยการขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ "You are Beautiful (เธอผู้งดงาม)" จากนั้นผู้กำกับ ทิม พูดถึงจุดเด่นของภาพยนตร์ให้ฟังว่า "จุดเด่นของเรื่องนี้นะครับ ยังไงมันตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นหนังรักนะครับ ธีมของมันเนี่ยคือเรื่องรักของคน 4 คนนะครับที่เรื่องเพศก็รู้ๆ อยู่ประมาณว่าเป็นหญิงรักหญิงนะครับ เหมือนกับว่าหนังเล่าเรื่องของคนหลายๆ คนหลายๆ คาแรกเตอร์ ซึ่งมาอยู่รวมกันนะครับ แต่ทั้งหมดเนี่ยคำตอบเดียวที่หนังพยายามจะบอกกับคนดูก็คือเรื่องความรักเนี่ยมันใช้ใจแลกใจ รักไม่มีเพศนะครับ ความรักไม่มีเพศ มันอยู่ที่ใจนะครับ"

ติ๊นา แนะนำตัวละครที่ตนเองแสดงว่า "สวัสดีค่ะ ติ๊นา นะคะ ในเรื่องรับบทเป็น ไวน์ ค่ะ" หลายคนอาจจำชื่อของสาวหล่อคนนี้ในนาม คิม ซึ่งเป็นตัวละครของ Yes or No ทั้งภาค 1 และภาค 2 เจ้าตัวขอเฉลยให้ฟังว่า "เพราะว่าเรื่องนี้เนี่ยเป็นเรื่องใหม่เลย ไม่ใช่ภาคต่อของภาค 1 และภาค 2 ในเรื่องนี้ก็จะโตขึ้นกว่าภาคก่อนๆ คือภาค 1 ภาค 2 เนี่ยคือเขาเป็นคนเหมือนเพิ่งมีความรักครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพศอะไรค่ะ แต่ในภาคนี้เหมือนพี่ไวน์เนี่ยรู้ใจตัวเองชัดเจน เป็นคนมั่นคงในความรักค่ะ แล้วก็ในเรื่องเนี่ยก็จะเป็นช่างภาพด้วย" ด้านนางเอกสาวคนใหม่อย่าง ปีเก้ กล่าวว่า "ปีเก้นะคะ รับบทเป็น พิมลดา ค่ะ อย่างพิมลดาที่เก้ได้รับบทนี้นะคะ ก็จะบอกว่าพิมลดาเนี่ยเหมือนเป็นผู้หญิงที่ออกจะเก็บกดหน่อยๆ เก็บความรู้สึกของตัวเอง จะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้ใครได้เห็น"

ส่วนสาวเท่ นัน เอ่ยทักทายว่า "สวัสดีค่ะ นันนะคะ ในเรื่องรับบทเป็น พี นะคะ ตัวพีเนี่ยก็จะเป็นรูมเมตกับไวน์ อย่างที่เห็นนอนก่ายกันในทีเซอร์นะคะ แล้วก็ค่อนข้างจะสนิทกันมาก เราก็จะรักเพื่อนมากนะคะ ส่วนนิสัยส่วนตัวก็จะเป็นคนที่ปากไม่ตรงกับใจนะคะ แล้วก็แบบคือปกป้องเขาเยอะไง บางทีก็เจ็บตัวเอง ต้องไปดูในหนังว่าทำไมถึงต้องปกป้องเขานะคะ แล้วก็ในเรื่องเนี่ยก็จะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นเชฟ" ขณะที่ หงหยก เพื่อนร่วมรุ่นของ นัน จากเวทีเอเอฟ 10 เผยว่า "สวัสดีค่ะ หงหยกค่ะ รับบทเป็น ฟ้า ค่ะ ฟ้าก็จะเป็นคนน่ารักสดใส เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีแล้วก็มีความเป็นตัวเองสูงค่ะ เอาแต่ใจนิดหนึ่ง คือคิดอะไรหรือว่ารู้สึกอะไรก็แสดงออกมาเลยตรงๆ"

หงหยก พูดถึงความรู้สึกในการมาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกว่า "ก็ต้องบอกว่ารู้สึกดีใจมากแล้วก็ตื่นเต้นนะ มันเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสร้างชื่อไว้อยู่แล้วค่ะสำหรับ Yes Or No แล้วก็มีแฟนคลับของหนังหรือว่าคนติดตามเยอะมาก พวกเรามาเล่นเรื่องนี้ก็ได้เป็นครอบครัวเพิ่มเข้าไปใช่ไหมคะ ก็รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ค่ะ" ฟากคู่ขวัญอย่าง นัน เปิดใจว่า "ก็อย่างที่บอกว่าเป็นหนังเรื่องแรกของพวกเรา แรกๆ ก็เกร็งนะ ทำอะไรก็ เอ๊ะมันเป็นมุมกล้องยังไงนะ เคยเล่นแต่ละคร เคยเล่นแต่โฆษณา ต่างกันมากนะคะ คนละศาสตร์กันเลย แต่ว่าก็ยังโชคดีที่มีพาร์ตเนอร์ที่ดี (หมายถึง ติ๊นา) เขาก็จะแนะนำนะคะ ติ๊ก็จะดูแลน้องๆ ทุกคน"

สาว ปีเก้ ซึ่งมีโอกาสได้แสดงฝีมือในภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกเช่นเดียวกัน กล่าวว่า "อย่างแรกนะคะก็คือก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่นะคะที่ให้โอกาสพวกเรา 3 คนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ได้เป็นครอบครัวของ Yes or No นะคะ ก็ต้องบอกว่าพวกเรา 3 คนก็เป็นเหมือนแฟนคลับของ Yes or No อยู่แล้ว แล้วก็ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในนี้ มันมีความรู้สึกดีใจมากค่ะ ตอนแรกต้องบอกว่ากดดันมาก แล้วก็เพราะว่าทุกคนเหมือนมีผลงานมาหมดแล้ว แล้วพี่ติ๊ก็เป็นเหมือนซุปตาร์ เอาจริงๆ เราก็เป็นแฟนคลับเขาด้วยแหละ ต้องบอกว่าแค่เห็นสายตาพี่ติ๊นี่ผู้หญิงทุกคนนี่คือละลายตาม"

สิ่งที่น่าจับตามองสำหรับภาพยนตร์รักคงหนีไม่พ้นฉากที่ต้องแสดงความหวาน ซึ่งนักแสดงรุ่นพี่อย่าง ติ๊นา สารภาพว่ารู้สึกตื่นเต้น "คือไม่มีการให้คำแนะนำอะไรเลยฉากนั้นเพราะว่าเราก็ตื่นเต้นด้วยค่ะ คือตอนแรกไม่คิดว่าจะถ่ายเลิฟซีนวันนั้น อยู่ดีๆ มีเซอร์ไพรส์ถ่ายเลย" สาว ปีเก้ เสริมว่า "ใช่ ก็คือต้องบอกว่าคู่เราตอนแรกในบทไม่มีฉากเลิฟซีน อันนี้เราได้แบบมาเซอร์ไพรส์กันกลางงาน" โดย นัน ให้ความเห็นถึงฉากที่ต้องแสดงความรักว่า "นันว่าฉากเลิฟซีนมันคือการแสดงออกความรักอย่างหนึ่ง ฉะนั้นจริงๆ แล้วแทบจะทั้งเรื่องมันแสดงออกถึงความรักกันตลอดนะคะ ไม่ได้เกร็งค่ะ เพราะว่ามันก็คือเหมือนกับโอเคเราก็เป็นตัวละครตัวนั้น แล้วก็ลองคิดจินตนาการแบบตัวละครดูว่าตัวนี้จะคิดยังไงจะทำยังไง"

ติ๊นา ฝากภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ว่า "ก็อยากจะฝากนะคะภาพยนตร์ Yes or No 2.5 กลับมา...เพื่อรักเธอนะคะ ก็จะเข้าฉายทุกโรงภาพยนตร์วันที่ 28 พฤษภาคมนี้แน่นอนค่ะ ก็ยังไงฝากด้วยนะคะ พวกเราทุกคนอยากจะให้ทุกคนเปิดใจมาลองดูหนังเรื่องนี้กันค่ะ" ทางผู้กำกับคนเก่งพูดแบบแฝงมุกตลกให้แฟนๆ ได้คอยติดตามชมกันว่า "สำหรับภาพยนตร์ Yes or No 2.5 กลับมา...เพื่อรักเธอนะครับ ก็เหมือนกับว่าเป็นอีกชอยส์หนึ่งให้คนดูได้ดูนะครับ ก็ยังไงตรงนี้อาจจะกราบขอโทษ เอสเอฟฯ กับเมเจอร์ฯ ด้วยนะครับว่าเบาะอาจจะขาด อันนี้ก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ รับรองจิ้นแน่นอนฮะ"

เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ระหว่างคน 4 คน จะเป็นเช่นไร ติดตามได้ในภาพยนตร์รักหลากรส Yes or No 2.5 กลับมา...เพื่อรักเธอ วันที่ 28 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์