สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ วันนี้ขอเสนอ Arctic Monkeys

สวัสดีครับ
วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ:เพื่อให้ชาวร็อคในบอร์ดSZได้พบปะสังสรรค์กันตามอัธยาศัย พูดคุย แนะนำเพลงหรือประวัติศิลปิน/วงร็อค สอบถาม ทักทาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือใครต้องการที่จะอัพเดตข้อมูลข่าวสารของวงร็อคต่างๆก็แจ้งกันเข้ามาได้เลยนะครับ กลับมาพบกับสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZกันอีกครั้ง ผมทราบดีว่ามีหลายคนเป็นแฟนคลับของวงนี้ครับ สี่ลิงร็อคขั้วโลกจากเกาะอังกฤษ

ARCTIC MONKEYS




ช่วงแรกเริ่ม

พวกเขาเริ่มต้นรวมตัวและซ้อมดนตรีกันที่ Yellow Arch Studio ในเมือง Neepsend และเริ่มต้นออกทำการแสดงตามงานเล็กๆเมื่อ
วันที่ 13 มิถุนายน 2003 ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศสหราชอาณาจักร พวกเขาได้บันทึกเสียงแบบเดโม่กับทาง 2fly สตูดิโอ ซึ่งอัลบั้มเดโม่นี้มีทั้งหมด 17 เพลง และได้ถูกวางจำหน่ายตามงานแสดงคอนเสิร์ตที่พวกเขาได้ออกทำการแสดง ซึ่งใช้ชื่ออัลบั้มเดโม่ชุดนี้ว่า Beneath the Boardwalk ซึ่งจริงๆแล้วได้รับความสนใจจากผู้ฟังพอสมควร แต่ทางวงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องการจัดจำหน่ายมากเท่าใด พวกเขาเพียงต้องการเผยแพร่เพลงของพวกเขาให้เข้าถึงผู้ฟังให้มากที่สุดเท่านั้น พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งวิธีการปล่อยเพลงลงในอินเตอร์เน็ต ซึ่งทางแฟนคลับของวงก็ได้สร้างMyspaceให้กับทางวง ต่อมา วงArctic Monkeysได้รับความนิยมไปทั่วเกาะอังกฤษทางตอนเหนือ ทำให้ทางสื่อมวลชนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับวงArctic Monkeysมากขึ้น และพวกเขาก็ได้แสดงสดในงาน Reading and Leeds Festival ในฐานะวงหน้าใหม่ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น และในที่สุด พวกเขาก็ได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Domino เมื่อเดือนมิถุนายน 2005 และในวันที่ 17 ตุลาคม 2005 พวกเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อ I Bet You Look Good on the Dancefloor และก้าวขึ้นสู่เพลงอันดับ1ของ UK Chart อย่างสง่าผ่าเผย อัลบั้มชุดนี้ของพวกเขาขายได้ถึงกว่า 30000 copies ซึ่งส่งให้เพลงของพวกเขาทะยานขึ้นสู่อันดับ1ของ UK Chart ได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้ทางวงArctic Monkeys ได้รับความนิยมอย่างมากมายทั่วเกาะอังกฤษ

Whatever People Say I Am, That's What I'm Not (2006)

สตูดิโออัลบั้มอย่างเป็นทางการชุดแรกของวง Arctic Monkeys มีชื่อว่า Whatever People Say I Am , That's What I'm Not ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2006 เพียงแค่สัปดาห์แรกที่ออกจำหน่าย อัลบั้มชุดนี้ได้สร้างสถิติเป็นอัลบั้มที่ขายได้รวดเร็วมากที่สุดบนเกาะอังกฤษ มียอดจำหน่ายถึง 363,735 copies 1เดือนหลังจากนั้นอัลบั้มชุดนี้ได้วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและทำยอดขายได้ถึง 34,000 copies ในสัปดาห์แรก อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันได้ออกมาวิจารณ์ในเชิงลบเกี่ยวกับอัลบั้มนี้พอสมควรซึ่งต่างจากในเกาะอังกฤษอย่างสิ้นเชิงที่พวกเขาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
พวกเขาได้ทำการออกทัวร์ในอเมริกาเหนือซึ่งมีทั้งเสียงชื่นชมและคำวิจารณ์ ต่อมาทางวงได้ทำการออกอัลบั้มแบบE.P.ซึ่งมีเพลงอยู่เพียง 5 แทร็ค ภายใต้ชื่อชุดว่า Who the Fuck Are Arctic Monkeys? แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ต่อมาAndy Nicolson ได้ลาออกจากวงไปเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยกับงานทัวร์ต่างๆและต้องการแยกตัวออกไปทำงานเอง และต่อมาทางวงก็ได้ตัว Nick O'Malley มาทำหน้าที่มือเบสแทน Andy Nicolson

Favourite Worst Nightmare (2007)

สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขามีชื่อว่า Favorite Worst Nightmare ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2007  เพลงแรกที่ถูกปล่อยออกมาให้ฟังคือเพลง Brianstorm ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ซึ่งนอกจากนี้ สตูดิโออัลบั้มชุดนี้ได้รับรางวัลต่างๆอย่างมากมาย เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขายความนิยมและรางวัลพร้อมๆกัน มีเรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เพลงทั้ง 12 เพลงในอัลบั้มชุดนี้นั้น ได้รับความนิยมถึงขั้นติดชาร์ตของ The Top 200 UK Single Chart ทั้ง 12 เพลง แถมอัลบั้มนี้ก็ยังมียอดขายเป็นอันดับที่ 1 ของสหราชอาณาจักรด้วย นอกจาเพลง Brainstorm แล้ว อัลบั้มชุดนี้ยังมีเพลงดังๆอย่าง Fluorescent Adolescent หรือ 505 และเพลง Teddy picker
วงArctic Monkeys ได้ถูกรับเชิญให้ขึ้นแสดงสดเป็นวงหลักในงาน The Glastonbury Festival ปี 2007 รวมทั้งงาน BBC2 ด้วย พวกเขาขึ้นเวทีแสดงเดียวกับ Dizzee Rascal และ Shirley Bassey วงArctic Monkeys ได้ออกทัวร์ไปทั่วยุโรปตลอดปี 2007 พวกเขาจบการทัวร์ปี 2007ที่งานแสดงสดใน Manchester Apollo เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2007 และงานแสดงสดนี้ก็ได้ถูกถ่ายทำและออกจำหน่ายออกมาในรูปแบบ DVD ด้วย

Humbug (2009–2010)

หลังจากที่Alex Turnerได้ออกไปทำงานSide Projectกับวง The Last Shadow Puppetsสักพักใหญ่ๆ ทางวงArctic Monkeys ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามของพวกเขา ซึ่งชุดนี้มีชื่อว่า Humbug ซึ่งมีเพลงดังๆอย่าง Crying Lightning ,Cornerstone,My Propeller, Pretty Visitors , Dangerous Animal และ Potion Approachingหรือที่รู้จักกันในภายหลังว่า Go Cart ซึ่งเพลงเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากและก้าวขึ้นติดอันดับที่1ของชาร์ต UK Chart หลายเพลง ทางวงได้ออกทัวร์ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งทางAlex Turner นักร้องนำของวงได้ออกมาเปิดเผยว่า อัลบั้มชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการฟังเพลงศิลปินดังๆอย่าง Nick Cave , Jimmi Hendrix และ Cream พวกเขาเริ่มต้นออกทัวร์รอบโลกในเดือนมกราคม ปี 2009 จนกระทั่งวันที่ 22 เมษายน 2010 พวกเขาได้ปิดฉากทัวร์รอบโลกที่เม็กซิโก

Suck It and See (2011–present)

วันที่ 6 มิถุนายน 2011 วงArctic Monkeys ได้ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของพวกเขาภายใต้ชื่อชุดว่า Suck It and See ทางวงได้ยืนยันว่าจะมีการออกทัวร์ร่วมกับวงดังๆอย่าง The Strokes , Arcade Fire และ Primal Scream ในงาน Benicassim Festival 2011 แน่นอน รวมทั้งงาน Oxegen 2011 , Super Bock Super Rock 2011 , V Festival 2011 และ Rock Werchter รวมถึงงานทัวร์อื่นๆทั่วทั้งยุโรปอีกมากมาย

สมาชิกวง Arctic Monkeys ปัจจุบัน

Alex Turner – lead vocals, lead guitar/rhythm guitar, keyboards (2002–present)
Jamie Cook – rhythm guitar/lead guitar, backing vocals (2002–present)
Matt Helders – drums, percussion, backing vocals, occasional lead vocals (2002–present)
Nick O'Malley – bass, backing vocals (2006–present)

สตูดิโออัลบั้ม
Whatever People Say I Am, That's What I'm Not (2006)
Favourite Worst Nightmare (2007)
Humbug (2009)
Suck It and See (2011)


ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของวงARCTIC MONKEYS ได้จาก www.arcticmonkeys.com

Credit:เนื้อหาภาคภาษาอังกฤษจากhttp://en.wikipedia.org/wiki/Arctic_monkeys
แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดย spit_it_out
ขอขอบคุณสมาชิกแฟนเพจของสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZทุกๆท่านที่แนะนำเพลงของวงนี้เข้ามาครับ